ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 1 พ.ค. เป็นวันแรกที่ผู้ค้าน้ำมันประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลทุกชนิด 2 บาทต่อลิตร และอี 85 ขึ้น 1 บาทต่อลิตร มีผล 05.00 น. ของวันที่ 1 พ.ค. ส่งผลให้ในวันก่อนหน้าประชาชนจำนวนมากแห่เข้าไปเติมน้ำมันดีเซล ก่อนที่ราคาใหม่ มีผลบังคับใช้ ทำให้หน้าปั๊มน้ำมันต่างๆ การจราจรหนาแน่น ซึ่งจากการตรวจสอบปั๊มน้ำมันย่านประชาชื่นเมื่อวันที่ 1 พ.ค. มีหลายปั๊ม ต่างระบุว่า น้ำมันดีเซลหมด ต้องมาเติมในวันที่ 2 พ.ค.แทน ทำให้ประชาชนผิดหวัง และแปลกใจว่า น้ำมันดีเซลหมดจริงหรือไม่หรือกักตุนไว้จำหน่ายราคาใหม่

สำหรับโครงสร้างราคาน้ำมันดีเซลใหม่ จะกำหนดเพดานราคาไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร และการปรับราคาจาก 32 บาทต่อลิตร ถึง 35 บาทต่อลิตร จะปรับราคาเป็นขั้นบันได หากในแต่ละรอบสัปดาห์ราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับลดลง ก็จะมีการปรับเงินอุดหนุนและปรับเพดานราคาลดลงตามความการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันต่อไป แต่หากปรับราคาขึ้นก็จะขยับเป็นขั้นบันไดสัปดาห์ละ 1 บาท ราคามีผลทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ เบื้องต้นกำหนดโครงสร้างดังนี้ 1 พ.ค. ราคา 32 บาทต่อลิตร 9 พ.ค. ราคา33 บาทต่อลิตร 16 พ.ค. ราคา 34 บาทต่อลิตร และ 23 พ.ค. ราคา 35 บาทต่อลิตร

นอกจากนี้วันที่ 1 พ.ค. กระทรวงพลังงานปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) กิโลกรัมละ (กก.) 1 บาทต่อเดือนที่ 2 จากกำหนดขึ้น 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย. 65 ) รวม 3 บาทต่อ กก. ส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้มขยับเป็น 348 บาทต่อถัง 15 กก. จากเดือน เม.ย. ขยับอยู่ที่ 333 บาทต่อถัง 15 กก. และเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 363 บาทต่อถัง 15 กก. อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นตามขั้นบันไดดังกล่าวยังไม่สะท้อนต้นทุนแท้จริงปัจจุบันที่สูงกว่า 450 บาทต่อถัง 15 กก. ดังนั้นกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะยังคงรับภาระดูแลส่วนต่างต่อไป