เป็นไปตามความคาดหมายสำหรับหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่จากค่ายดัง “มาร์เวล” ซึ่งก็คือหนังภาคใหม่ “Doctor Strange in the Multiverse of Madness” ที่เดินหน้ากวาดเงินในการเข้าฉาย 3 วันแรก (6-8 พ.ค.) ที่สหรัฐอเมริกาไปทั้งหมด 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,396 ล้านบาท) รั้งอันดับ 1 แบบหล่อ ๆ ตามคาด ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างหนังแอนิเมชั่น The Bad Guys ที่ทำเงินไป 9.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รายได้รวม 57.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แบบไม่เห็นแม้แต่ฝุ่น

การเดินหน้าโกยเงินของ Doctor Strange in the Multiverse of Madness แสดงให้เห็นว่าหนังมาร์เวลกลับมาอย่างเต็มตัวแล้ว หลังเจอผลกระทบจากโควิด จนทำให้ “Black Widow” เปิดตัวที่ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บวก 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก Disney Plus และ “Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings” เปิดตัวที่ 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ “Eternals” เปิดตัวที่ 71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ก่อนหน้านี้ “The Batman” เคยมีสัปดาห์เปิดตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ด้วยการกวาดเงินไป 134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน “Spider-Man: No Way Home” เปิดตัวด้วยการกวาดเงินไป 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หากนับรายได้รวมจากทั่วโลกทำเงินไปทั้งหมด 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว แม้จะไม่ได้เข้าฉายที่จีน รัสเซีย และยูเครน คงต้องรอลุ้นกันว่า Doctor Strange 2 จะกวาดเงินทะลุหลัก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐได้หรือไม่ เพราะในยุคโควิดมีเพียงแค่ “Spider-Man: No Way Home” เท่านั้นที่สามารถทำได้

สำหรับหนังทำเงินอันดับ 3 นี่หนังจากเกมดัง Sonic the Hedgehog 2 ทำรายได้เพิ่มไปอีก 6.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รายได้รวม 169.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทาง Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore รั้งที่ 4 ทำรายได้เพิ่ม 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รายได้รวม 86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และอันดับ 5 Everything Everywhere All at Once กวาดรายได้เพิ่ม 3.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รายได้รวม 41.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ).