เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงวันครบรอบ 8 ปีรัฐประหาร ประชาธิปไตยจะเดินหน้าไปอย่างไรว่า วันนี้เป็นวันที่จะสามารถดูความเป็นไปได้ของประชาธิปไตย สิ่งแรก คือเป็นวันรัฐประหารเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เขาอ้างเรื่องความสงบเรียบร้อย เรื่องสถาบันฯ และเรื่องอะไรต่างๆ พอมาถึงวันนี้หากมองย้อนไปเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา ข้ออ้างหรือข้อกล่าวหาทั้งหลายทั้งปวงไม่พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า มันเป็นไปตามที่คุณอ้างหรือไม่ คุณทำมันย่ำแย่มากกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพและความเป็นประชาธิปไตยนี่มันหายหมด

วันนี้กลายเป็นวันเลือกตั้งที่เป็นสัญลักษณ์ในการใช้สิทธิใช้เสียงของเจ้าของอำนาจอธิปไตยก็คือประชาชน มันทำให้มองภาพไปอนาคตได้ว่า ประชาชนคิดอย่างไรแม้จะเป็นเฉพาะคนกรุงเทพฯ ถ้าผลการเลือกตั้งสะท้อนความเป็นประชาธิปไตย นั่นหมายความว่า กระบวนการประชาธิปไตยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้ามันอาจจะดูเหมือนจะมีโอกาสมีอนาคต เพราะคนตระหนักรู้ คนต้องการ ส่วนฝ่ายผู้มีอำนาจ อาจจะไปคัดค้านหรือหาเหตุผลมาขัดขวางทำให้ประชาธิปไตยก้าวหน้าไม่ได้

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า สิ่งที่สอง คือตรงกันข้ามถ้าเหตุการณ์วันนี้ฝ่ายประชาธิปไตยดูเข้มแข็ง ได้แสดงออกตามที่ตัวเองมีเจตนารมณ์จริง เพื่อให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะ มันอาจะเป็นผลร้ายต่อประชาธิปไตยในอนาคต เพราะประชาธิปไตยในเมืองไทยเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยเข้มแข้งเมื่อไร ฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐ ก็พยายามหาเหตุผลช่องทางมาลดทอนประชาธิปไตยให้อ่อนแอให้ได้ ยกตัวอย่าง เช่น สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เสียงข้างมาก 377 ก็มีเหตุให้ปฏิวัติยึดอำนาจได้ ดังนั้นเราต้องมองทั้งสองมุม

“วันนี้ถามว่าจะบอกอะไรได้หรือไม่ มันก็พอบอกแนวโน้มและทิศทางได้ แต่สิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้ คือมันจะออกหนึ่งหรือสอง เราไม่รู้จริงๆ ฉะนั้นเราต้องติดตามดูว่าปฏิกริยาของผู้มีอำนาจที่แท้จริงเขาคิดอย่างไร ยิ่งเขาสนับสนุนแล้วเขาแพ้ เขาจะเพิ่มกระบวนการต่อสู้ และกระบวนความเข้มแข็ง และกระบวนการครองซึ่งอำนาจอยู่หรือไม่ อันนี้ต้องไปดูอีกผมมองแบบนี้” นพ.ชลน่าน กล่าว.