เมื่อวันที่ 26 พ.ค. เวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถาในการประชุม International Conference on the Future of Asia (Nikkei Forum) ครั้งที่ 27

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า ตั้งใจมาร่วมการประชุมครั้งนี้ เนื่องด้วยไทยเชื่อว่าญี่ปุ่นเป็นมิตรแท้ของไทยเสมอมา ประกอบกับญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าที่มีความสำคัญอันดับ 2 ของไทย และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เหนียวแน่น จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงหัวข้อ เอเชียจะมีส่วนในการสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และความมั่งคั่งในทุกด้านได้อย่างไร ว่า คำตอบคือ เอเชียต้องยืดหยุ่นต่อการปรับตัว และต้องเดินหน้าควบคู่ไปกับการสร้างความสมดุลของสรรพสิ่งและก้าวไปสู่ความยั่งยืน

พล.อ.ประยุทธ์ได้แบ่งปันมุมมองของไทย 3 สิ่งที่เชื่อว่าเอเชียจะร่วมกันทำได้เพื่อก้าวข้ามสถานะปัจจุบัน มุ่งให้เกิดสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ประกอบด้วย 1.กระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ต้องทำให้ตลาดเปิดกว้างและครอบคลุมเศรษฐกิจที่ยั่งยืน 2. ต้องสนับสนุนระบบพหุภาคีต่อไป เพราะไม่มีประเทศใดจะสามารถรับมือและจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ได้เพียงลำพัง และเอเปคเป็นอีกเวทีหนึ่งที่ไทยจะสามารถแสดงการสนับสนุนระบบพหุภาคีได้ ในการจัดการประชุมเอเปค 2022 ไทยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ขับเคลื่อนงานของเอเปค และ 3.การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจต้องเกิดควบคู่ไปกับความยั่งยืน ขอเชิญชวนภาคเอกชนมาร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเอเชียว่า เป็นภูมิภาคที่กว้างใหญ่ ไม่หยุดนิ่ง ยืดหยุ่นและเต็มไปด้วยทรัพยากร ความเข้มแข็งของเอเชีย คือ ความเป็นเอกภาพ การเติบโตไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เอเชียเป็นแผ่นดินแห่งความหวัง เป็นสถานที่แห่งโอกาส ไทยกำลังทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่ในทุกระดับ.