เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากฯ เกินราคาว่า จากโครงการซื้อสลากดิจิทัล ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดจำหน่ายจำนวน 5 ล้านใบ ตั้งแต่วันที่ 2-4 มิ.ย. พบ วันนี้ 4 มิ.ย.65 เวลา 15.00 น. ประชาชนเข้ามาซื้อสลากดิจิทัล ที่เปิดขายผ่านแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” แล้วจำนวน 4,233,931 ฉบับ ทั้งนี้ในส่วนของจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศเกือบ 300 จุดมีประชาชนซื้อสลากฯ เป็นจำนวนมากเช่นกัน

“การซื้อขายสลากดิจิทัลผ่านแอพเป๋าตัง และจุดจำหน่าย 80 บาทเกือบ 300 จุดทั้วประเทศ ประชาชนตื่นตัวซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงแรกที่ทางคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าจะลดปัญหาการขายสลากเกินราคาได้ดีขึ้น สามารถสร้างกลไกราคาให้กลับมาที่ราคา 80 ได้ในไม่ช้า และเป็นรูปธรรม ทำได้จริง นอกจากนี้ผู้ซื้อยังมีความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย เชื่อถือได้ ในระบบที่มีรัฐบาลเป็นประกัน” น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า จากที่ประชาชนสงสัยว่าหากถูกรางวัลแล้วต้องขึ้นเงินกับธนาคารกรุงไทยจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 1% ค่าอากรแสตมป์ อีก 0.5 % รวมของกรุงไทย 1.5% จากยอดที่ถูกรางวัล ซึ่ง 1% นั้นคือการบริหารจัดการของระบบที่อำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้ถูกรางวัล ไม่ต้องเสียเวลาและปลอดภัย หรือถ้าจะไปขึ้นเองที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะเสียเพียง 0.5% เท่านั้น

“อย่างไรก็ตาม จึงอยากแจ้งประชาชนว่า ในอนาคตการแก้ไขปัญหาหวยแพงจะพัฒนาให้สอดรับกับสถานการณ์ขึ้นแน่นอน ไม่ว่าเป็นการขึ้นเงินได้หลายธนคารมากขึ้น การพิจารณาค่าธรรมเนียมให้สอดคล้องกับปริมาณการใช้งาน รวมถึงการเพิ่มสลากฯ เข้ามาขายมากขึ้นด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ รัฐบาลหวังว่าสลากฯ ราคา 80 บาท จะถึงมือประชาชนที่จะเป็นเศรษฐีใหม่ได้แน่นอน” น.ส.ทิพานัน กล่าว