เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “มุมการเมือง” ทางสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS ถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ อบจ.สงขลา จ่ายเงินรวมดอกเบี้ยเป็นเงิน 80 ล้านบาท แก่บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2 คัน ซึ่งทำให้นายนิพนธ์ถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี โดยนายนิพนธ์ยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะพฤติกรรมที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหานั้น เป็นเรื่องละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ไม่ใช่เรื่องทุจริต และอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาดังนั้น เรื่องคุณสมบัติที่ถูกตั้งข้อสังเกต จึงเป็นคนละกรณีกัน
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเดือน พ.ค.2556 ก่อนที่ตนจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.2556 และคดีนี้เป็นคดีแพ่ง ซึ่งบริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด ได้ฟ้อง อบจ.สงขลา ที่ไม่เบิกจ่ายเงินให้ตามสัญญา ทั้งที่การไม่เบิกจ่ายเงินตามสัญญานั้น เป็นไปตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในสมัยนั้น และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเรื่องฮั้วการประมูล ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่ามีการฮั้วการประมูลจริง จึงสั่ง อบจ.สงขลา ไม่ให้เบิกจ่ายเงิน
“ที่ผ่านมา ผมทำเต็มที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และเคารพมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการทุจริต เหตุใดไม่มองว่าเป็นการรักษาผลประโยชน์แผ่นดิน ผมยืนยันว่า ผมไม่มีเจตนาทำความผิดหรือทำให้ใครเสียหาย และทราบว่าล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 ได้ออกหมายจับบริษัทเอกชนที่เป็นคู่เทียบเข้ามาเสนอราคา หรือฮั้วกันแล้ว ทั้งหมด 8 หมายจับ และส่วนตัวได้ส่งหนังสือร้องขอความเป็นธรรม หลังปรากฏหลักฐาน 1 ชิ้นว่า ปลัด อบจ.ไม่มีอำนาจเซ็นรับรถซ่อมบำรุง ตามที่นายก อบจ.มอบหมายให้ปลัด อบจ.เซ็นรับงานได้เพียงมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่รถซ่อมบำรุงมีมูลค่าถึง 50 กว่าล้านบาท ผมจึงทำเรื่องโต้แย้ง รวมถึงยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อป.ป.ช.และอัยการแล้ว” นายนิพนธ์ กล่าว
วันเดียวกันที่รัฐสภานายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวเรียกร้องให้ อัยการสูงสุดรีบฟ้องร้องนายนิพนธ์ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และขอให้นายกฯ ปรับนายนิพนธ์ ออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เพราะมีข้อบกพร่องทำให้ราชการเสียหาย.
