สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ว่า สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นโอดีซี) กล่าวในรายงานยาเสพติดโลกประจำปีว่า กัญชาเป็นสารเสพติดที่มีการใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลกมานานแล้ว และการใช้นั้นเพิ่มขึ้น ขณะที่กัญชาในตลาดมีอิทธิพลมากขึ้น ในเรื่องของสารเตตระไฮโดรแคนนาบินอล (ทีเอชซี)

“การทำให้กัญชาถูกกฎหมาย ดูเหมือนจะเร่งแนวโน้มการใช้ยาในแต่ละวันตามรายงานให้สูงขึ้น” รายงานของยูเอ็นโอดีซี ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเวียนนา ระบุ

ขณะที่ความแพร่หลายของการใช้กัญชาในกลุ่มวัยรุ่น “ไม่เปลี่ยนแปลงมาก” แต่มี “การเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์สูงบ่อยครั้งในกลุ่มคนหนุ่มสาว”

“สัดส่วนของผู้ที่มีความผิดปกติทางจิต และการฆ่าตัวตายที่เกี่ยวข้องกับการใช้กัญชาเป็นประจำนั้น มีตัวเลขที่สูงขึ้น”

นอกจากนี้ รายงานระบุเพิ่มเติมว่า ประชากรราว 284 ล้านคน หรือคิดเป็น 5.6% ของประชากรโลก ใช้สารเสพติดจำพวกเฮโรอีน โคเคน แอมเฟตามีน และยาอี ในปี 2563 ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุด โดยในจำนวนนี้ ประมาณ 209 ล้านคน ใช้กัญชา

“ช่วงเวลาของการล็อกดาวน์ในระหว่างการระบาดโรคโควิด-19 ส่งผลให้การใช้กัญชาเพิ่มขึ้นในปี 2563” ตามที่รายงานระบุ.

เครดิตภาพ : REUTERS