เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายสุนทร รักษ์รงค์ เลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แจ้งผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่าได้ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.2565 เป็นต้นไป เพราะเคมีไม่ตรงกัน และระบุด้วยว่า “#สุนทรลูกชาวบ้าน ทำงานการเมืองเพื่อชาวบ้าน ไม่ใช่การเมืองเพื่อการแสวงหา” นั้น

ล่าสุด นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า พรรค ปชป. มีกระบวนการในการคัดเลือกสมาชิกพรรคที่เสนอตัวลงสมัครเป็น ส.ส.ในนามพรรคชัดเจน ทั้งนี้ ในเขตเลือกตั้งใดที่มีผู้เสนอตัวมากกว่า 1 คน จะมีกระบวนการการคัดเลือกตามข้อบังคับพรรค และมีหลายเขตที่มีกระบวนการที่เพิ่มเติมคือการทำโพลในพื้นที่ โดยขณะนี้หลายเขตอยู่ในกระบวนการดังกล่าว ซึ่งรวมถึงเขตที่นายสุนทรเสนอตัวด้วย สุดท้ายก็จะไปจบที่คณะกรรมการสรรหาและคณะกรรมการบริหารพรรค อย่างไรก็ตาม เราเคารพในการตัดสินใจของนายสุนทร แต่นายสุนทรไม่ควรให้ร้ายหรือด้อยค่าพรรคด้วยถ้อยคำที่ไม่ควรพูด

“ถ้าจะมาบอกว่าบ้านหลังนี้หลังคารั่ว ฝาผนังพัง ยากที่จะดีกลับคืน ถือว่าพูดเกินไป พรรคเป็นสถาบันทางการเมืองผ่านระยะเวลามายาวนาน หากเปรียบเป็นบ้าน คุณอาศัยบ้านหลังนี้มา ถ้าคุณคิดเห็นเช่นนั้น ทำไมไม่หาวิธีการช่วยกัน แต่กลับมาให้ร้ายหลังคาฝาบ้านที่คุณเคยอาศัยอยู่ ตอนกินข้าวนั่งกินในบ้านได้ แต่ขึ้นไปโทษหลังคาฝาบ้านคงไม่ถูกต้อง นายสุนทรจะติติงตัวบุคคลในพรรคสามารถทำได้เต็มที่ แต่ถ้าจะมาให้ร้ายพรรค จะให้ผมนั่งฟังอย่างนิ่งเฉย คงเป็นไปไม่ได้ และแน่นอนว่าไม่มีอะไรที่จะถูกใจใครทั้งหมด แต่มีกระบวนการในการจัดการแก้ปัญหา แต่บัณฑิตย่อมต้องใช้ความรู้ก่อการเสมอ” นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ กล่าวอีกว่า อะไรที่มีเหตุมีผล พรรค ปชป.รับฟังตลอด และให้โอกาสนายสุนทรได้ทำหน้าที่สำคัญในหลายเรื่อง แต่เมื่อนายสุนทร ลาออกจากพรรคแล้วมาพูดเช่นนี้ ตนเชื่อว่าสมาชิกที่รักพรรครับไม่ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค มีนโยบายชัดว่าจะหยิบยื่นโอกาสให้ทุกคนที่ตั้งใจทำงานทุ่มเทเพื่อพรรค ไม่จำเป็นต้องอยู่ฝ่ายไหน หรือเป็นเด็กของใคร และได้ยึดหลักดังกล่าวมาตลอด ซึ่งสมาชิกพรรคทุกคนทราบดี.