จากกรณีศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับตำรวจ 3 นาย พลเรือน 1 คน หลังพิจารณาหลักฐานน่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน BNK Master ซึ่งมีรายชื่อของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) นั้น

ด่วน! ออกหมายจับแก๊ง ‘ตร.-พลเรือน’ เอี่ยวเว็บพนัน ลือสะพัดมีชื่อบิ๊กนายพลคนดัง

ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เวลา 17.00 น. นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ ทนายความ พร้อมด้วยนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับการขอออกหมายจับ ที่มีรายชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต่อศาลอาญาของพนักงานสอบสวน

โดย นายณัฐวิชช์ กล่าวว่า การแถลงครั้งนี้จะอยู่ในกรอบของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เท่านั้น ในกรณีที่มีข่าวว่าพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอออกหมายจับ และหนึ่งในนั้น มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รวมอยู่ด้วย ในกรอบนี้ ศาลมีคำสั่งยกคำร้อง คือ ไม่ออกหมายจับ และศาลได้มีดุลพินิจว่าไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับตามคำร้อง แต่กลับมีการออกข่าวทำนองว่าศาลออกหมายเรียก หมายจับ และจากการตรวจสอบพบว่าศาลไม่ได้ออกหมายจับ

นายณัฐวิชช์ กล่าวต่อว่า เมื่อมีการยกคำร้องดังกล่าว จึงมาดูว่าในส่วนขั้นตอนที่จะทำต่อไป หากพนักงานสอบสวนจะดำเนินการต่อ พบว่าการที่พนักงานสอบสวนยังดำเนินการอยู่ ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะข้อเท็จจริงที่กล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีการส่งเรื่องไป ป.ป.ช.และมีมติรับเรื่อง ดังนั้นคนที่จะสอบสวนว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะมีความผิดหรือไม่ อำนาจจึงอยู่ที่ ป.ป.ช. ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันทุจริต มาตรา 30 ประกอบมาตรา 28

“เมื่ออำนาจการสอบสวนไม่ได้อยู่ที่พนักงานสอบสวนแล้ว และพนักงานสอบสวนจะดำเนินการอย่างใดนั้น พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจ หากจะทำต่อน่าจะเข้าข่ายประเด็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 และทางพนักงานสอบสวนต้องรับผิดชอบกันเอง” ทนายความ ระบุ