จากกรณีหม้อแปลงระเบิดจนเกิดเหตุเพลิงไหม้ลุกลามเข้า บริษัท ราชวงศ์รุ่งเรือง จำกัด ค้าถุงพลาสติก ตั้งอยู่เลขที่ 157 ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. ก่อนที่เพลิงจะลุกลามเข้าอาคารข้างเคียงจนได้รับความเสียหาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ห้องประชุม ศปก.สน.จักรวรรดิ นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วย นายโกศล ขาวสำอางค์ ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตวัดเลียบ การไฟฟ้านครหลวง พล.ต.ต.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นนท์ นุ่นบุญนำ รรท.ผกก.สน.จักรวรรดิ ร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายจากเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์เบื้องต้นให้กับกลุ่มร้านค้ารถเข็น ซึ่งได้แจ้งความและประเมินค่าเสียหายในขณะเกิดเหตุไว้ที่ สน.จักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ โดยมีพ่อค้าแม่ค้า 3 ราย ประกอบด้วย นายลำไพร ซาววงศ์ จำนวน 17,000 บาท นางสาวสมใจ โสพิษ จำนวน 6,000 บาท และนางแพง อรสาม จำนวน 13,000 บาท ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นรายละ 50,000 บาท

เตือนเสี่ยงถล่ม! ไฟไหม้ตึกสำเพ็ง เหยื่อรวมตัวเตรียมเอาผิดฟ้อง กฟน.

นายจาตุรงค์ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ การไฟฟ้านครหลวงได้ดำเนินมาตรการเยียวยาเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ประสบเหตุได้รับความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยไม่รอกระบวนการพิสูจน์หลักฐาน นอกจากผู้เสียหายในกลุ่มร้านค้ารถเข็นแล้วได้ติดต่อให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อให้ความช่วยเหลือกับผู้ได้รับผลกระทบในกลุ่มอื่น ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่สามารถดำเนินการได้และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ ขณะที่ด้านกระบวนการทางกฎหมายยังต้องรอผลการตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้และมูลค่าความเสียหายเพื่อให้ความเป็นธรรมสูงสุดต่อผู้ได้รับผลกระทบ

อีกทั้งยังยืนยันว่าการไฟฟ้านครหลวง จะปรับปรุงแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้นอีก โดยมีมาตรการทบทวนแผนการบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์ เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ นำนวัตกรรมการแจ้งเตือนเหตุสำหรับหม้อแปลงไฟฟ้ามาใช้เพิ่มเติมจากระบบเดิมที่มีอยู่ พร้อมเร่งตรวจสอบดูแลระบบไฟฟ้ารวมถึงจุดเสี่ยงต่างๆ และจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยปกติแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยว่าหม้อแปลงจะเกิดควันพวยพุ่งออกมา เพราะหม้อแปลงจะมีระบบป้องกัน โดยใช้หม้อแปลงระบบโลลอสซึ่งมีมาตรฐานและราคาสูง ควันที่เกิดขึ้นอาจมาจากจุดอื่นก็เป็นได้ แต่ก็ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ หรือปฏิเสธความบกพร่องของอุปกรณ์ ซึ่งต้องรอผลตรวจสอบที่แน่ชัดก่อนเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อไป

ด้าน นางรำไพ ซาววงศ์ อายุ 55 ปี แม่ค้ารถเข็นร้านขายกาแฟ 1 ในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขณะตนยืนขายกาแฟอยู่ใต้หม้อแปลงที่ระเบิด มีลูกค้าเดินผ่านมาบอกว่าหม้อแปลงมีควันขึ้น ตนจึงขยับรถเข็นหนี จู่ๆ เกิดระเบิดขึ้นทันที ไม่ทันนำรถเข็นออกมาจากจุดดังกล่าว ทำให้รถเข็นขายกาแฟของตนถูกไฟเผาเสียหายทั้งคัน โชคดีที่ไฟพุ่งออกอีกทางที่ผู้เสียชีวิตอยู่ แต่หากว่าไฟลามมาฝั่งของตนก็หนีไม่รอดเช่นกัน ซึ่งรายได้เสียไปหลายพันบาท รู้สึกดีใจที่ได้เงินเยียวยาครั้งนี้ เพราะเราหาเช้ากินค่ำ จะนำเงินที่ได้ไปซื้อรถเข็นและอุปกรณ์ทำมาหากินต่อ รู้สึกพอใจมาก คิดว่าจะกลับไปขายของในบริเวณนั้นเหมือนเดิม แต่ก็รู้สึกกลัวว่าจะเกิดเหตุขึ้นอีก จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยปรับปรุงสายไฟให้ดีขึ้นกว่าเก่า

เบื้องต้นพบว่าผู้เสียหายหลายรายมาแจ้งกับการไฟฟ้านครหลวง ทั้งเจ้าของอาคาร 3 ราย ผู้เสียชีวิต 2 ราย เจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 8 ราย และพ่อค้าแม่ค้า อีก 4 ราย หากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมก็สามารถมาแจ้งความประสงค์กับการไฟฟ้านครหลวง หรือ สน.จักรวรรดิ ได้ ซึ่งจะมีการทยอยช่วยเหลือเยียวยาเป็นรายๆ ไป