เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการกองทัพอากาศ กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อปรับปรุงโครงสร้างและภารกิจของส่วนราชการกองทัพอากาศ โดยในส่วนของกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ (คปอ.) เปลี่ยนชื่อเป็นกองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ และได้แก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่เพื่อให้ครอบคลุมการปฏิบัติการทั้ง 3 มิติ ได้แก่ ทางอากาศ ทางอวกาศ และทางไซเบอร์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ในการปรับปรุงโครงสร้างและภารกิจดังกล่าว จะเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพการบัญชาการและควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ทางอวกาศ และทางไซเบอร์ เพื่อรองรับภารกิจการปฏิบัติการทางทหารทั้งการรบและไม่ใช่การรบ อีกทั้งสามารถสนับสนุนภารกิจอื่นของรัฐในการพัฒนาประเทศ การป้องกันและแก้ไขปัญหาจากภัยพิบัติและการช่วยเหลือประชาชน และยังสามารถรองรับการปฏิบัติการของอากาศยานรบ ยุคที่ 5 ที่วางแผนจะจัดหาในอนาคต และเป็นการสร้างสมดุลของระบบ เตรียมกำลังและระบบการใช้กำลังกองทัพอากาศ ส่งผลดีต่อการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของเหล่าทัพและกองทัพไทย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างและการจัดอัตรากำลังพลนั้น ให้กระทรวงกลาโหมยึดถือหลักการ ปรับเกลี่ยและจัดกลุ่มงานใหม่ ของหน่วยงานที่มีความจำเป็นลดน้อยลง แล้วเพิ่มให้กับหน่วยงานที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถ โดยปรับเกลี่ยอัตรากำลังพลภายในตรงตามชั้นยศ ไม่ทำให้อัตรากำลังพล ยอดอัตรากำลังพลแต่ละชั้นยศ และงบประมาณรายจ่ายกำลังพลภาครัฐทุกประเภทเพิ่มขึ้น