สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ว่า โรงแรมและร้านอาหารหลายแห่งในอินเดียมักจะคิดค่าเซอร์วิสชาร์จ 5-15% เพิ่มเติมจากใบเสร็จค่าอาหาร แม้ว่ามันจะไม่ใช่แนวทางปฏิบัติตามกฎหมายสำหรับลูกค้าก็ตาม

ทั้งนี้ กฎระเบียบใหม่ระบุว่า “โรงแรมและร้านอาหารไม่สามารถบังคับผู้บริโภคให้จ่ายค่าเซอร์วิสชาร์จได้ และต้องมีการแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจนว่า การจ่ายค่าบริการต้องเป็นไปตามความสมัครใจ ไม่ใช่การบังคับ และอยู่ที่ดุลพินิจของผู้บริโภค” ดังที่กรมกิจการผู้บริโภคอินเดีย (ซีเอดี) เคยกำหนดแนวทางสำหรับค่าบริการเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2560

อย่างไรก็ตาม เลขานุการของซีเอดี เขียนระบุช่วงหนึ่งลงในหนังสือที่ส่งไปยังสมาคมร้านอาหารแห่งชาติของอินเดีย (เอ็นอาร์เอไอ) เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ว่ามีการเรียกเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จรวมในใบเสร็จอาหารอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้บริโภคด้วยราคารวมที่สูงกว่าปกติ รวมถึงการถูกข่มขู่หากลูกค้าขอให้ตัดค่าบริการออกอีกด้วย

หลังจากที่ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคกลาง (ซีซีพีเอ) จึงออกกฎควบคุมดังกล่าว และนำกรณีที่คล้ายคลึงกันอีกหลายคดีเข้าสู่ศาลเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งศาลพบว่า การเรียกเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จ เปรียบเสมือน “แนวปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม” และเป็น “การละเมิดสิทธิผู้บริโภค”

นอกจากนี้ ซีซีพีเอ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนควรร้องขอให้ร้านอาหารนำการคิดค่าเซอร์วิสชาร์จ ออก ควรสังเกตใบเสร็จให้ดี และบันทึกคำร้องกับสายด่วนผู้บริโภคแห่งชาติ หากต้องการ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES