เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (มท.1) เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของมท. โดยมีนายอนุชา โมกขะเวส ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย คณะทำงาน รมว.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัด มท. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัด มท. พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ มท. นายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการ มท. คณะผู้ตรวจราชการ มท. นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารสำนักงานปลัด มท. โดยเป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการส่วนกลางประจำภูมิภาคในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุม

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องทำหน้าที่ในการบังคับบัญชา กำกับดูแล และบูรณาการการทำงานร่วมกับส่วนราชการ/หน่วยงานในพื้นที่ ให้การปฏิบัติราชการเป็นไปด้วยความโปร่งใสและการทำงานตามอำนาจหน้าที่ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด และอธิบดีกรมการปกครอง ต้องกำกับ ติดตาม และดูแลให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งต้องให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้ความเข้าใจกับประชาชน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการทำงานของศูนย์ดำรงธรรม ทั้งรับปัญหา แก้ไขปัญหา ให้ข้อมูลประชาชน และบูรณาการส่งต่อข้อมูลความเดือดร้อนให้กับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ 

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดการสาธารณภัย ต้องทำแผนเผชิญเหตุ และเตรียมความพร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ กำลังพล ก่อนเกิดภัย เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็ลงไปช่วยแก้ไขปัญหา เหลังเกิดภัยเร่งสำรวจและลงไปซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับพี่น้องประชาชน ขณะนี้พี่น้องประชาชนจะได้รับทราบข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์แผ่นดินไหวและการเตรียมการรับมือสถานการณ์สึนามิของประเทศต่างๆ ใกล้เคียงกับประเทศไทย จึงต้องสร้างการรับรู้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความตระหนักในการปฏิบัติตนและไม่ตื่นตระหนก รวมทั้งซักซ้อมเตรียมการให้มีความพร้อมในการบริหารสถานการณ์ ทั้งกำลังคน เครื่องมือ แผนผัง พิมพ์เขียว แบบก่อสร้างอาคาร รวมถึงจังหวัดที่เคยเกิดสถานการณ์ดินถล่มดินสไลด์

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวด้วยว่า ด้านการแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยกลไก (ศจพ.) ได้มีการดำเนินการทุกระดับเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดและมีความคืบหน้าตามลำดับ ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอรวมถึงข้าราชการที่เกี่ยวข้องทุกส่วน ที่ร่วมกันสำรวจ รวบรวม และแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้สามารถดำเนินการแก้ไขไปแล้วกว่าร้อยละ 92.37 นอกจากนี้ ต้องให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเน้นย้ำในเรื่องแนวทางปฏิบัติหลังจากกระทรวงสาธารณสุขได้นำพืชกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 สิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง คือ ต้องไม่ให้กระทบกับเด็กเล็ก ทั้งในโรงเรียน ครอบครัว และสังคม พร้อมกำกับดูแลพื้นที่ให้ดำเนินการเกี่ยวกับกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น หากพบมีผู้ใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ต้องร่วมกับตำรวจและหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ควบคุมดูแลให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด.