กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาครอบครัวเด็กชายผู้เสียหายวัย 12 ขวบ เข้าแจ้งความกับ สน.บางเขน ให้ดำเนินคดีกลุ่มบังปล่อยเงินกู้ หลังอุ้มผู้เสียหายขึ้นรถจักรยานยนต์พาไปทำกระทำอนาจารในบ้านร้างแห่งหนึ่งย่านพหลโยธิน จนอวัยวะเพศบวมเป็นหนอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

แจ้งจับ ‘บังเงินกู้’ ทวงหนี้ไม่เจอพ่อแม่ อุ้มลูกชายวัย 12 ไปบังคับอมนกเขาขัดดอก

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ส.ค. ที่ สน.บางเขน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ควบคุมตัว นายยาเดฟ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี สัญชาติอินเดีย ผู้ต้องสงสัยในคดีไปชี้จุดเกิดเหตุ หลังตามไปจับกุมตัวที่บ้านพักในซอยพหลโยธิน 48 เมื่อคืนที่ผ่านมา

พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธว่า เรื่องที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดและยังไม่ขอให้การใดๆ โดยเบื้องต้นจะทำการแจ้งข้อกล่าวหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี, พาบุคคลอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และข้อหาเกี่ยวกับการหลบหนีเข้าเมือง” เนื่องจากผู้ต้องหาเข้ามาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 62 และวีซ่าหมดอายุ แต่พนักงานสอบสวนก็จะมีการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบจุดเกิดเหตุ และร่วมกับสหวิชาชีพสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อนำมาประกอบสำนวนให้รัดกุมยิ่งขึ้น ส่วนประวัติการก่ออาชญากรรมของผู้ต้องหานั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังในวันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.) โดยคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ และคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ส่วนเรื่องการปล่อยเงินกู้นั้น วันนี้แม่ของผู้เสียหายได้แจ้งความในเรื่องการเก็บดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด ทางพนักงานสอบสวนได้รับเป็นอีกคดีแล้ว และจะให้ฝ่ายสืบสวนดำเนินการขยายผลไปถึงนายทุนเงินกู้อีกด้วย

ขณะที่ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตอนนี้สภาพจิตใจของลูกชายย่ำแย่มาก มีอาการหวาดกลัว โดยหลังจากแพทย์ตรวจร่างกายเบื้องต้นเมื่อวานนี้ พบอวัยวะเพศฉีกขาดเป็นแผล ส่วนผลการตรวจวันนี้แผลยุบลงบ้าง แต่ยังมีการติดเชื้ออยู่ และมีตุ่มติดเชื้อในลำคอ ซึ่งแพทย์ต้องตรวจอีกครั้งว่ามาจากสาเหตุนี้หรือไม่ โดยตนได้รู้จักกับนายยาเดฟ เนื่องจากตนขายของในตลาดและนายยาเดฟ ทำอาชีพปล่อยเงินกู้เป็นที่รู้จักในพื้นที่ และตนได้เคยกู้เงินกับนายยาเดฟ มานาน 7-8 เดือน แต่ละครั้งกู้จำนวน 4,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือน ซึ่งที่ผ่านมานายยาเดฟ ก็ได้เก็บเงินรายวันตามปกติ ไม่เคยข่มขู่แต่อย่างใด ปกติแล้วนายยาเดฟกับลูกชายไม่ได้มีความสนิทสนมหรือคุ้นเคยกัน มีเพียงบางครั้งที่ลูกชายตนเอาเงินมาจ่ายหนี้ให้นายยาเดฟ เท่านั้น ส่วนที่นายยาเดฟ ให้การปฏิเสธนั้น ตนรู้สึกแค้น และอยากดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะวันเกิดเหตุ ตนแน่ใจว่าเป็นนายยาเดฟ เป็นผู้ก่อเหตุ เชื่อว่าลูกชายไม่น่าจะโกหก และมั่นใจว่าไม่มีคนอื่นร่วมด้วย

จากการสอบสวนนายยาเดฟ ให้การว่า เด็กให้พาไปหาแม่ และไม่ขอตอบว่าไปบ้านร้างทำไม และยังบอกอีกว่า สนิทกับเด็ก ส่วนบาดแผลจากอวัยวะเพศของเด็กที่เกิดแผลนั้น ตนแค่ใช้ไม้เขี่ยอวัยวะเพศเด็กเล่น แต่ยืนยันว่าไม่ได้กระทำอนาจารตามที่ถูกแจ้งข้อหา

ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน นำตัวนายยาเดฟ กลับมาเข้าห้องคุมขัง โดยระหว่างการนำตัวเข้าห้องคุมขัง นายยาเดฟ มีอาการเคร่งเครียด และยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด

ด้าน นายอโศก ปานเด อายุ 38 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้าง พหลโยธินซอย 48 เพื่อนของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อวาน วันนี้จึงมาเยี่ยมเพื่อน และสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยตนรู้จักกับนายยาเดฟ มาประมาณ 5 ปี ปกตินายยาเดฟ ทำงานขายผ้า และมีแฟนสาวอยู่ที่อินเดีย รวมถึงไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้ ส่วนเรื่องที่อยู่เกินวีซ่านั้นตนไม่ทราบ ซึ่งเท่าที่พูดคุยกัน นายยาเดฟ ยังยืนว่าไม่ได้กระทำอนาจารผู้เสียหาย เพียงแต่บอกว่าพาผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์ไป แต่ตนไม่ทราบว่าไปที่ไหน ที่ผ่านมานายยาเดฟ กับผู้เสียหายรู้จักกันอยู่แล้ว เคยหยอกล้อกันบ่อยครั้ง มีการเอานิ้วจี้เอว และบางครั้งก็มีการเอาไม้เขี่ยที่อวัยวะเพศของผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงนายยาเดฟว่าอยากให้พูดความจริงกับตำรวจ หากทำจริงก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย.