ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก (เอ็น 3)  
1.ผู้ซื้อสามารถเลือกหมายเลขที่ต้องการได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่ 000 ถึง 999
2.เปิดจำหน่ายผ่านช่องทางดิจิทัล
3.การซื้อทุก ๆ 1 รายการ จะได้หมายเลขรางวัลพิเศษ 1 หมายเลข
4.จำกัดอายุผู้ซื้อ-ผู้ขาย 20 ปี ขึ้นไป
5.ออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง วันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน
6.จำหน่ายใบละ 50 บาท

ส่วนการจัดสรรเงินรางวัลเป็นรางวัลแบบผันแปรตามยอดขาย และผู้ถูกรางวัล โดยจะจ่ายเงินรางวัล 60% ของยอดขาย แบ่งเป็น  4 รางวัล ได้แก่
1.รางวัลสามตรง (ตรงเลข-ตรงหลัก) คือ ตัวเลขที่เลือกตรงกับผลการออกรางวัลและหลักตรงกัน มีเงินรางวัล 30%
2.รางวัลสามสลับหลัก (ตรงเลข-สลับหลัก) หรือโต๊ด คือ ตัวเลขที่เลือกตรงกับผลการออกรางวัลแต่หลักสลับกัน มีเงินรางวัล 30%
3.รางวัลสองตรง (ตรงเลข-ตรงหลัก) คือ ตัวเลขที่เลือกตรงกับผลการออกรางวัลและหลักตรงกัน มีเงินรางวัล 39%
4.รางวัลพิเศษ เป็นรางวัลแจ๊กพอต มีเงินรางวัล 1%

นอกจากนี้ยังเป็นสลากแบบสมทบเงินรางวัล หากการออกรางวัลในงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะนำเงินที่จัดสรรไว้ไปสมทบเพื่อจ่ายเป็น เงินรางวัลในงวดถัดไปได้ แต่สมทบได้ไม่เกินหนึ่งงวด โดยเงินรางวัลที่ทบเกินหนึ่งงวด จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ผู้ถูกรางวัลเสียอากรแสตมป์ 0.5%

ส่วนการทำสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (ลอตเตอรี่ 6) จะมีรูปแบบการเล่น การจ่ายเงินรางวัลแบบเดียวกับลอตเตอรี่ที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน เพียงแต่ให้มีการศึกษาและเปิดรับฟังความเห็นเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย พ.ร.บ.สลากฯ ที่ต้องมีการเปิดรับฟังความเห็น