เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ร.ต.อ.วิชิต ลาชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต ที่สวนยางพาราทางทิศเหนือ บ้านราชดำริ หมู่ 16 ต.น้ำโสม จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.น้ำโสม แพทย์เวร รพ.น้ำโสม อาสากู้ภัยทางหลวงน้ำโสม รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 300 เมตร พบศพนายวินัย กองทอง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 15 ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ถูกยิงบริเวณศีรษะและใบหน้า นอนหงายจมกองเลือดอยู่ที่พื้นสภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงวอร์มสีน้ำเงินตัวเดียว ข้างศพมีต้นยูคาลิปตัสล้ม ถูกตัดเป็นท่อนและแปรรูป มีรถไถนาคูโบต้าสีส้มของผู้ตายจอดอยู่ ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายสมศักดิ์ สุโพธิ์ อายุ 64 ปี พ่อเลี้ยงผู้ตาย หลังก่อเหตุได้เดินถืออาวุธปืนลูกซองยาวออกไปจากที่เกิดเหตุ ตำรวจและญาติได้โทรศัพท์เกลี่ยกล่อมให้มามอบตัวประมาณ 20 นาที จึงเดินออกมาจากป่า พร้อมนำชี้จุดซ่อนอาวุธปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุ ควบคุมตัวไปโรงพัก

พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่านายสมศักดิ์ และนายวินัย เป็นพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงที่ไม่ถูกกัน จะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่รถไถนาคูโบต้าออกมาที่สวนยางพาราของแม่ นำเลื่อยมาตัดต้นยูคาลิปตัสเพื่อไปทำกระท่อมในสวนยางของตัวเอง ต่อมานายสมศักดิ์ พ่อเลี้ยงได้ถือปืนลูกซองมาสวนยางและมาพบผู้ตายตัดต้นยูคาลิปตัสในสวนยาง จึงไม่พอใจได้เข้าต่อว่าและมีปากเสียงทะเลาะกันอีกนายสมศักดิ์ ได้ยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่กลัวแถมท้าให้พ่อเลี้ยงยิงตัวเอง

พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ กล่าวต่อว่า ด้วยความโมโหที่ถูกท้าทายนายสมศักดิ์ จึงใช้ปืนเล็งและยิงศีรษะนายวินัย 1 นัด กระสุนปืนเข้าศีรษะและใบหน้าล้มลงเสียชีวิตคาที่ จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้ถือปืนเดินหนีออกจากจุดเกิดเหตุไปตั้งหลัก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีนางคำตา อุบลหล้า อายุ 58 ปี น้าผู้ตายซึ่งกำลังเก็บถั่วอยู่ห่างที่เกิดเหตุ 300 เมตร ได้ยินเสียงปืนและวิ่งมาดูและพบศพจึงแจ้งตำรวจ ซึ่งนายสมศักดิ์ ได้นำอาวุธปืนลูกซองไปซุกซ่อนไว้ในกระท่อมสวนยางและเข้าไปหลบอยู่ในป่าก่อนญาติและตำรวจได้โทรศัพท์เกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัวและนำยึดอาวุธปืนตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.