เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของ นายคมสิทธิ์ น้องชายของนักการเมืองในพื้นที่โพธาราม ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม หรือ เจ๊นุช ผู้ต้องหาที่ทำร้ายทารุณทหารหญิงรับใช้ เพื่อพูดคุยกับเรื่องที่ถูกพาดพิงว่าไปทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ ทหารหญิงรับใช้

โดยนายคมสิทธิ์ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า วานนี้ (22 ส.ค.) ตัวเองต้องไปส่งแฟนสาวที่ศาล แต่ไม่ได้ประกันตัว เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น อยากจะถาม น.ส.เอ ผู้เสียหายว่าทำแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่ ทั้งที่ตนและแฟนสาวก็ดูแล น.ส.เอ เหมือนคนในครอบครัว พากินพาเที่ยวอยู่ด้วยกันตลอด ซึ่ง น.ส.เอ ก็เป็นคนแนะนำให้รู้จักกับนุช เมื่อครั้งไปเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดย น.ส เอ เข้ามาขอแลกเงินกับตน จึงทำให้ได้เจอกับนุชครั้งแรก จากนั้นก็สานสัมพันธ์ตกลงคบหากันเป็นแฟนได้ประมาณ 7-8 เดือน

นายคมสิทธิ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ตนคบกับนุช ก็จะเห็นพฤติกรรมของ น.ส.เอ เป็นคนชอบโกหกและแถเวลาทำอะไรผิด ครั้งแรกที่เห็นนุชลงมือตบตี น.ส.เอ ตอนไปเที่ยวพูลวิลล่าที่หัวหิน-ชะอำ ครั้งนั้น น.ส.เอ ทำอะไรผิดสักอย่างแล้วนุชเข้าไปถาม แต่ น.ส.เอ ก็ยังโกหกและแถ จึงทำให้นุชโกรธ ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาตนก็พยายามอบรมสั่งสอน น.ส.เอ ให้เปลี่ยนตัวเอง เลิกเป็นคนโกหก สอนทุกอย่างถึงขั้นให้ น.ส.เอ ทำบันทึกว่า แต่ละวันทำอะไรผิดพลาดบกพร่องไปบ้างจากสาเหตุอะไร เพื่อหาทางแก้ไขปรับปรุง แต่ น.ส.เอ ก็ยังทำผิดเรื่องเดิมซ้ำๆ เช่น ชอบแถ , โกหก , ขี้ลืม , พูดไม่รู้เรื่อง , 2 แง่ 2 ง่าม และสร้างปัญหาให้ตามแก้ตลอด เป็นแบบนี้ประจำ จนตนรู้สึกโกรธและโมโหแทนแฟนสาว โดยลงมือตบ น.ส.เอ ไป 2 ครั้ง และใช้ไม้ตี 1 ครั้ง เพื่อเป็นการสั่งสอนให้จำและเปลี่ยนนิสัย

นายคมสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องเงินเดือนทหารที่ น.ส.เอ โอนให้แฟนสาวตนนั้น เป็นข้อตกลงที่ทั้งคู่ทำด้วยกัน เพราะ น.ส.เอ มาอยู่ที่บ้านของนุช คอยดูแลเรื่องต่างๆ และลักษณะแชร์กันกิน เพราะเวลาไปเที่ยวไปกินดื่มทั้งคู่ก็จะหารกัน แต่เงินเดือนของ น.ส.เอ ได้น้อยกว่า จึงโอนมาให้นุชเป็นคนดูแลรับผิดชอบ

“ผมรู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึกที่ น.ส.เอ ทำกับนุช และผมแบบนี้ สำหรับเรื่องทางคดีที่กันจอมพลังจะพา น.ส.เอ ไปแจ้งความช่วงบ่ายวันนี้ ทางตัวเองได้ปรึกษากับทนายและเตรียมพยานหลักฐานไว้แก้ต่างหมดแล้ว ขออย่างเดียวให้ น.ส.เอ พูดความจริงและเลิกโกหกสร้างเรื่องเสียที” แฟน ส.ต.ท.หญิง กล่าว