กลายเป็นประเด็นร้อนระอุมากในโลกออนไลน์ หลังจากครู “มิกกี้-จิตปภา สุพันธะ” อินฟลูเอนเซอร์ด้านการศึกษาชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ตำหนิระบบการศึกษาของไทย โดยเฉพาะโรงเรียนของรัฐบาล ครูมิกกี้แนะนำว่า หากมีกำลังทรัพย์ให้ส่งลูกไปเรียนเอกชนหรือต่างประเทศไปเลยจะดีกว่า พร้อมโพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก @TeacherMickey Suphanta เพิ่มเติมว่า “เชิญชมเอกสารงี่เง่าอีก 1 ชุด ค่ะ SDQ ผู้ปกครองท่านไหน คิดอยากจะส่งลูกไปโรงเรียน ถ้ามีเงินมากพอ มีกำลังส่งไปเรียนเอกชน สาธิต หรือโปรแกรมดีๆ ไปต่างประเทศให้รีบลาออก หรือผู้ปกครองทำบ้านเรียนเองเลย

อย่าส่งลูกคุณไปโรงเรียนรัฐค่ะ เพราะครูไม่มีเวลามาอบรมสั่งสอนลูกของคุณค่ะ ไม่ใช่ว่าครูไม่ดี หรือไม่อยากสอน แต่เป็นเพราะครูยุ่งอยู่ กรอกเอกสารอยู่ค่ะ นักเรียนมีกี่คนก็คูณเข้าไป ถามว่ามีข้อมูลมันดีมั้ย มันก็ดีมากๆ ถ้ากรอกแล้วเอาไปใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียนจริง ไม่ใช่กรอกส่งหน่วยเหนือแล้ว รายงานแล้ว ทิ้งไว้ให้ปลวกกิน (SDQ อันนี้คือครูต้องแจกให้ ผู้ปกครองกรอก) 

แต่ส่วนใหญ่แล้ว เขาแค่กรอกส่งเฉยๆตามหน้าที่ค่ะ นี่เป็นแค่เอกสาร 0.1 % ที่ครู “ต้องทำ ต้องส่ง หรือ ต้องตามเก็บจากผู้ปกครองให้ครบ” ต้องทำอย่างปฏิเสธไม่ได้ เขาเลยไม่ค่อยมีเวลาเตรียมสอนกัน แล้วคุณภาพผู้เรียนก็ออกมาเละเทะ อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ไง จริงๆ ถ้าอยากได้ข้อมูลพวกนี้ แค่ปล่อยครูไปอยู่กับนักเรียนเยอะๆ ทำไมเขาจะไม่รู้ ว่าจุดแข็ง จุดอ่อน ของนักเรียนแต่ละคนเป็นยังไง ก็เห็นหน้า เห็นพฤติกรรมกันอยู่ทุกวัน 

แล้วคือถ้าถ่ายเอกสารออกมาเป็นแผ่นๆ แบบนี้ หมายความว่า ผปค./ครู แต่ละคนต้อง ใช้มือติ๊ก ทีละข้อ ทีละข้อ ของนักเรียนแต่ละคน เสร็จแล้วครูต้องไปไล่ตามเก็บไปเข้าเล่ม รายงานหลังจากนั้นไปอีก 2-3 ปี หรือรอจนกระดาษเหลืองแล้ว เราก็เตรียม ชั่งกิโลขายกระดาษค่ะ เบื่อจริงๆ พวกนักสำรวจ สำรวจอย่างเดียว รอรายงานอย่างเดียว ไม่รู้เลยหรือไงว่าเอกสารพวกนี้ คือสิ่งที่แย่งเวลาครูไป แย่งเวลาเรียนของนักเรียนไป คุณภาพการศึกษาบ้านเรา ถึงตกต่ำ ต่ำแบบ ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ไม่มีวันได้ผุดได้เกิดกันขนาดนี้ 

คิดว่าครูเขาว่างมากนักหรือไง เอกสาร 80 อย่าง จะแบ่งเวลาตรงไหนมาสอน ต่อให้สอน ก็ไม่เต็มที่ เพราะเวลามีไม่พอที่จะเตรียมตัว หรือทำสื่อ หรือมีเวลามาใส่ใจลูกของคุณ เพราะฉะนั้นเวลามีผลโพลสำรวจ จัดอันดับการศึกษาอะไร ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไม ประเทศไทยถึงรั้งท้ายมาตลอด แบบเสมอต้น เสมอปลาย แย่แบบคงเส้นคงวามาก นี่ไงปัญหา ใครหนีได้ หนีไปเลยค่ะ มันพังพินาศแล้ว 

โรงเรียนไม่ใช่ที่บ่มเพาะศักยภาพของเด็กแล้ว มันเป็นแหล่งผลิตเอกสารขยะรอวันทิ้ง มันเป็นแหล่งบั่นทอนกำลังใจคนเป็นครู มันเป็นเหมือนค่ายเชลยศึกที่เด็กต้องจำใจมาเรียน ส่วนครูก็สุขภาพจิตแย่ สุขภาพกายก็แย่ เพราะถ้าใครตั้งใจทุ่มเทสอนมากๆ เขาก็ต้องหอบเอกสารต่างๆ นานา กลับไปทำในเวลาอื่นอยู่ดี ทั้งๆที่ทุกคนมีเวลา 24 ชม. เท่ากัน ครูบางคนทำงาน 16 ชม. หรือมากกว่านั้นต่อวัน จะให้เขาเอาแรงเอากำลังใจไหนมาสอนลูกคุณอย่างเต็มที่ได้ แต่บางคนก็ยอมทำแบบนั้น คือไม่ยอมทำเอกสารในเวลาที่ตัวเองต้องสอน แล้วเอาเอกสารไปทำนอกเวลา ทำไปเพราะอยากสอน แต่หาเวลาสอนแทบไม่มี นี่ไง ถึงได้น่าสงสาร ทั้งครู ทั้งเด็ก”

อย่างไรก็ตาม ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีคนกดไลค์กว่า 3 พันคน แชร์ไป 2.3 พันครั้ง และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงเห็นด้วยกับสิ่งที่ครูมิกกี้เขียน ซึ่งบางกลุ่มมองว่าเอกสารที่ครูให้ผู้ปกครองนักเรียนกรอกนั้น ทำเป็นรูปเล่มอย่างหนา สงสัยว่าเขาเอาไปพัฒนาอะไร ทำไมไม่เห็นมีผลสะท้อนในทางที่ดีกลับมาบ้างเลย..

ขอบคุณ้อมูลและรูปภาพ : @TeacherMickey Suphanta