หลังจากการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับนายพล รายชื่อข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้ง ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไม่ค่อยมีพลิกโผ โดยเฉพาะ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. นรต. รุ่น 38 ขึ้นเป็น ผบ.ตร. คนที่ 13 แทน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. นรต รุ่น 36 ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้

แต่ตำแหน่งที่พลิกโผ สร้างความตกตะลึงแก่วงการตำรวจ ก็คือ ตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ที่จะเข้ามาครองรหัส น.1 ทำหน้าที่แทน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ที่เรียกได้ว่าหักปากกาเซียนแตกเป็นเสี่ยง เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติโยก พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง หรือ บิ๊กจ้าว ผบช.ภ.2 นรต.รุ่น 40 ข้ามห้วยมาเป็น ผบช.น. แทนที่ชื่อตัวเต็ง อย่าง พล.ต.ต.จีระสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. เพื่อนร่วมรุ่น นรต. รุ่น 40 และ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 นรต.38

วันนี้ทีมข่าว ‘เดลินิวส์’ พาผู้อ่านทุกคน มารู้จัก ว่าที่ ผบช.น. เจ้าของรหัส น.1 คนใหม่ อย่าง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง กัน สำหรับ พล.ต.ท.ธิติ เป็น นรต.รุ่น 40 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมพงศ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.จีระสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.

โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า พล.ต.ท.ธิติ เป็นนายตำรวจดาวรุ่งที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ความไว้วางใจ ถือเป็นน้องรักคนหนึ่ง โดยเส้นทางรับราชการที่สำคัญ เคยดำรงตำแหน่ง สารวัตรกำลังพล ตร. มีโอกาสขึ้นติดยศ พ.ต.อ. ดำรงตำแหน่ง ผกก.ปอศ. แล้วโยกเป็น รอง ผบก.ปคม. แล้วโยกเป็น รอง ผบก.ปคบ. จากนั้นขยับติดยศ พล.ต.ต. ในตำแหน่ง ผบก.กต.3 จต. แล้วย้ายไปเป็น ผบก.ปคม. เมื่อปี 2557 แล้วปี 2558 โยกเป็น ผบก.ภ.จว.สระบุรี ปี 2559 เป็น ผบก.ภ.จว.สงขลา ปี 2560 ขยับขึ้น รอง ผบช.ภ.1 ปี 2561 โยกเป็น รอง ผบช.ส. ปี 2562 มาเป็น รอง ผบช.น. จากนั้นปี 2563 มาเป็น ผบช.ประจำ ตร. ทำหน้าที่ประสานงานนายกรัฐมนตรี ทำให้มีโอกาสใกล้ชิดกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จนเป็นที่ไว้วางใจ

ต่อมาปี 2564 ด้วยผลงานที่ได้ชื่อว่ามีความตงฉิน ยอมหักไม่ยอมงอ และไม่ยอมรามือให้นายตำรวจนอกรีต จึงได้รับความไว้วางใจจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร. ส่งไปนั่งรักษาการ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ร่วมสางคดีบ่อนหลงจู๊สมชาย ผู้มีอิทธิพลในภาคตะวันออก ก่อนที่ ปลายปี 2564 จากผลงานที่ปรากฏ ทำให้ได้มานั่งเป็น ผบช.ภ.2 ครองตำแหน่ง 1 ปี กระทั่งได้รับความไว้วางใจ โยกข้ามห้วยมานั่ง เก้าอี้ ผบช.น. ในปี 2565 ด้วยผลงานที่เข้มงวดตามนโยบายไม่อ่อนข้อให้กับผู้มีอิทธิพล หรือธุรกิจสีเทา และขณะนี้กำลังเริ่มมีม็อบรวมตัวต่อต้านรัฐบาลอีกครั้ง จึงต้องดึง ‘บิ๊กจ้าว’ มาช่วยดูแลความเรียบร้อยในเมืองหลวง

ผลงานคดีสำคัญ

ความจริง ผลงานของ พล.ต.ท.ธิติ ล้วนร่วมโชว์ฝีมืออยู่เบื้องหลังการสืบสวนสอบสวนคดีสำคัญมากมายแต่ไม่ปรากฏเป็นข่าว ตามสไตล์ตำรวจนักสืบ อย่างไรก็ตามทีมข่าว ‘เดลินิวส์’ ได้คัดผลงานเด่นที่เห็นได้ชัด ประกอบด้วย ร่วมสางคดี ‘บ่อนหลงจู๊สมชาย‘ จนทำให้สามารถจับผู้มีอิทธิพลได้จำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ “หลงจู๊” นายสมชาย จุติกิติ์เดช ปี 2563-2564

อีกคดี ช่วงต้นปี 2565 ร่วมสานต่อพร้อมแกะรอยจับ นายมนตรี ใหญ่กระโทก หัวหน้า รปภ.คอนโดมิเนียม ย่านเพชรเกษม 47 พื้นที่ สน.เพชรเกษม กรุงเทพฯ ก่อเหตุข่มขืนลูกบ้าน เป็นหญิงสาววัย 36 ปี ภายหลังผู้เสียหายลืมกุญแจไว้บนห้องพัก และเรียกนายมนตรีให้มาช่วยตามช่างกุญแจมาเปิดห้องพัก โดยหลังจากผู้ก่อเหตุลงไปส่งช่างกุญแจ แล้วกลับมาเคาะห้อง เมื่อผู้เสียหายเปิดประตูออกมา ถูกนายมนตรี ผลักร่างเข้าไปในห้องแล้วล็อกประตูจับใส่กุญแจมือและข่มขู่ไม่ให้ส่งเสียงร้อง ก่อนลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่.