เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ในเบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงรถยนต์เจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. ของวันที่ 12 ก.ย. ทาง สภ.ศรีสาคร ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิดรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่อาสาทหารพรานได้รับความเสียหาย บริเวณริมถนนสายบ้านไอร์กือเดร์ หมู่ 4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ในเบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยหลังจากควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้อง จะได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อทำการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทำการพิสูจน์ทราบหาตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เร่งทำการสืบสวนสอบสวนหาข่าวเชิงรุก เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ และเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ รวมถึงการใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ในการเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ การเก็บวัตถุพยานในสถานที่เกิดเหตุ และการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งในการสอบสวนยังไม่ตัดประเด็นมูลเหตุจูงใจใดๆ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ในส่วนของความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดที่เกี่ยวข้องและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยในเบื้องต้นมีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่อาสาทหารพรานได้รับความเสียหาย จำนวน 1 คัน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงคอยเป็นหูเป็นตาในการจดจำบุคคล และคอยสังเกตวัตถุต้องสงสัยที่อาจถูกวางทิ้งไว้ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม หากพบเบาะแสใดๆ สามารถแจ้ง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.