จากกรณีที่มีการโพสต์ภาพและข้อความผ่านสื่อโซเชียลระบุว่า ถูกตำรวจหาดใหญ่นายหนึ่งเรียกเงินจากวัยรุ่น 3 คน จำนวน 1 หมื่นบาท เพื่อแลกกับการไม่จับกุมดำเนินคดีเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา หลังจากที่ถูกตำรวจจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 3 ตัว พร้อมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 3 ขวด ขณะเดินทางจาก จ.พัทลุง มาเที่ยวที่ อ.หาดใหญ่ และถูกตำรวจซึ่งตั้งด่านตรวจอยู่หน้า ปตท.คลองแห ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยพาตัวไปเรียกเงินภายในป้อมตำรวจจาก 3 หมื่น ลดเหลือ 15,000 บาท สุดท้ายเหลือ 1 หมื่นบาทนั้น

คืบหน้าล่าสุด ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้เปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงว่า ในวันนี้ได้มีการประชุมและรายงานให้กับผู้บังคับบัญชารับทราบแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่ตำรวจ ซึ่งเป็นผู้รักษากฎหมาย แต่กลับใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์โดยทุจริต เพื่อแลกกับการไม่จับกุมดำเนินคดี การดำเนินการเรื่องนี้ได้ประสานให้ผู้เสียหายมายืนยันข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินกี่คนและมีอาสาสมัครร่วมด้วยหรือไม่ พร้อมกับชี้ตัวยืนยันว่าผู้ที่เรียกรับเงิน และจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้

พ.ต.อ.อัครวุฒ กล่าวต่อไปว่า ถ้าผลการสอบสวนออกมาว่าผิดจริงก็จะถูกดำเนินคดีในมาตรา 157 มาตรา 149 ตามประมวลกฎหมายอาญาเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยจะส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพราะเป็นความผิดของข้าราชการ รวมถึงจะดำเนินการทางวินัยควบคู่กันไปด้วย

ผกก.สภ.หาดใหญ่ กล่าวต่อว่า สำหรับในวันเกิดเหตุนั้น ที่มีตำรวจที่เข้าเวรประจำจุดตรวจคลองแหจำนวน 3 นาย และอาสาสมัครอีก 4-5 นาย ซึ่งจะให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยันอีกทีว่า เป็นใครที่เรียกรับเงิน หลังจากนั้นก็ว่ากันไปตามกระบวนการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา เบื้องต้นได้สั่งให้ตำรวจที่ถูกระบุว่ารับเงินยุติการปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ ในส่วนของผู้เสียหายซึ่งเป็น 3 วัยรุ่นอายุ 18-19 ปี ได้เดินทางจาก จ.พัทลุง พร้อมด้วยผู้ปกครองมายัง สภ.หาดใหญ่ แล้วโดยเข้าพบ ผกก.สภ.หาดใหญ่ เพื่อแจ้งความเอาผิดดำเนินคดีกับตำรวจที่เรียกรับเงินแลกกับการไม่ดำเนินคดี

เบื้องต้นตำรวจได้นำทั้งสามคนไปให้สอบสวนในรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และให้ชี้ตัว ยืนยันตำรวจที่เรียกรับเงินว่ามีกี่คนใครบ้าง หลังจากนั้นก็จะเรียกตัวมาสอบสวนดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป รวมถึงทางวินัย.