เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า วันที่ 21 ก.ย. ของทุกปีเป็นวันอัลไซเมอร์โลก (World Alzheimer’s Day) องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินสถานการณ์โรคสมองเสื่อมจะเป็น pandemic คือพบผู้ป่วยทั่วโลกจำนวนมากเหมือนโรคโควิด-19 เนื่องจากประชากรโลกมีอายุมากขึ้นในปี 2050 ซึ่งประเทศไทยพบป่วยอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้นปีละ 10 % ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และมีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจโรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน และพันธุกรรม ซึ่งอาการเริ่มต้นที่พบได้ คือ การถามซ้ำ ๆ เริ่มคิดอะไรที่ซับซ้อนไม่ค่อยได้ มีอาการหลงลืม หลงทิศทาง สับสนเรื่องเวลาและสถานที่ เป็นต้นดังนั้นกรมการแพทย์แผนไทยฯ ขอแนะนำบริโภคสมุนไพรพื้นบ้าน 2 ชนิด เพื่อป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในอนาคต

1.ใบบัวบก หรือ ผักหนอก สรรพคุณแก้ช้ำใน แก้อ่อนเพลีย บำรุงร่างกาย คลายความเมื่อยล้า บำรุงหัวใจ และตามตำราอายุรเวทของอินเดีย มีสรรพคุณช่วยบำรุงสมอง ทั้งนี้จากการศึกษาวิจัยของนักวิจัยไทยและอินเดีย พบว่า สารสกัดจากใบบัวบกสามารถเพิ่มความจำและปรับสภาพอารมณ์ในผู้สูงอายุที่มีสภาวะความจำเสื่อมเล็กน้อย รวมถึงมีฤทธิ์เพิ่มขีดความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กพิการทางสมองได้อีกด้วย

2.พรมมิ หรือผักมิ มีสรรพคุณบำรุงประสาทและสมอง ตามตำราอายุรเวทอินเดีย นอกจากนี้ ในทางการแพทย์อายุรเวทมีการนำพรมมิมาใช้รักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและสมอง เช่น โรคลมชัก ลมบ้าหมู เป็นยาบำรุงประสาท และส่งเสริมการทำงานของสมองในด้านการจดจำ เนื่องจากมีสารสำคัญที่มีการศึกษามากที่สุด คือ Bacoside A และ Bacoside B ซึ่งมีผลในการเพิ่มประสิทธิภาพความจำและการตัดสินใจ ช่วยปกป้องเซลล์สมอง ต้านความจำเสื่อม ช่วยให้นอนหลับสบาย ป้องกันอาการชักและลดความวิตกกังวล เป็นต้น.