เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็น สืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากพรรคประชาธิปัตย์ กรณีโครงการเคหะสุขประชาส่อว่ามีการทุจริตฝ่าฝืนกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างพัสดุในการจัดจ้างถมดิน การจ้างช่วงและการเอื้อประโยชน์ให้บริษัท จัดการทรัพย์สินและชุมชน จำกัด หรือเซ็มโก้ (CEMCO) รวมถึงการตั้ง บมจ.เคหะสุขประชาที่อาจจะหาประโยชน์จากสินทรัพย์ของการเคหะฯ

ทั้งนี้นายณัฐชา ได้นำหลักฐานประกอบจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจมายื่นให้ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนว่านายจุติมีพฤติการณ์ส่อทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่รวมถึงใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งอาจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 รวมถึงขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งประกอบด้วย นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย กรรมการการเคหะแห่งชาติ และนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ฐานเป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจตัดสินใจในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 เป็นเจ้าพนักงานเข้ามีผลประโยชน์ทับซ้อน ตามมาตรา 152 และฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ตามมาตรา 157 รวมถึงไต่สวนและวินิจฉัยบริษัทเซ็มโก้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่รัฐ ที่เข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 หรือไม่

นายณัฐชา กล่าวว่า หากติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเห็นความผิดปกติของเรื่องดังกล่าวทุกจุด ดังนั้นวันนี้ตนขอให้ ป.ป.ช.ใช้อำนาจในการสืบหาข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เพราะการที่เจ้าหน้าที่รัฐส่อทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคลบุคคลนั้นเป็นระบอบปรสิตที่เบียดเบียนประเทศไทย แน่นอนว่าตนและพรรคก้าวไกลไม่สามารถยอมรับได้ จึงอยากฝากถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า ทุกเรื่องที่พรรคก้าวไกลได้ยื่นร้องไป มีหลักฐานที่บ่งชี้ชัดเจน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ป.ป.ช.จะวินิจฉัยและให้ความกระจ่างแก่สังคมได้