เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน Kick Off การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี (ไฟเซอร์ฝาแดง) โดยนายอนุทิน กล่าวช่วงหนึ่งว่า ประเทศไทยให้บริการวัคซีนป้องกันโควิดครอบคลุมประชากรมากกว่า 82% แต่ยังเหลือในกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แต่พบอัตราการติดเชื้อ ป่วยมากกว่าเด็กโตถึง 1.5 เท่า เสียชีวิตมากกว่าเด็กโต 3 เท่า ดังนั้น สธ.จึงนำเข้าวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ขวบ จำนวน 3 ล้านโด๊ส ซึ่งมีการส่งเข้ามาแล้ว 5 แสนโด๊ส และจะทยอยเข้ามาจนครบจำนวนต่อไป โดยประเทศไทยเป็น ประเทศแรกในอาเซียน ที่ดำเนินการฉีดให้กับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ขวบ และเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศแรกของเอเชีย ที่มีการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กได้อย่างครบถ้วน

นายอนุทินสรุปภาพรวมทั่วประเทศ มีพ่อแม่ ผู้ปกครอง แสดงความประสงค์พาบุตรหลานฉีดวัคซีนประมาณ 300,000 คน ประชาชนที่มีความประสงค์ให้บุตรหลานฉีดวัคซีนสามารถ walk in ไปยังโรงพยาบาลในสังกัดรัฐทั้งหมดทั่วประเทศได้ หรือโทรฯ ไปนัดหมายล่วงหน้า ส่วนโรงพยาบาลเอกชนขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานขอกระจายวัคซีนไปให้บริการเพิ่มเติม

ด้าน ผู้ปกครองที่พาหลานมาฉีดวัคซีน (สงวนชื่อ นามสกุล) กล่าวว่า เนื่องจากได้รับทราบข้อมูลว่า การติดเชื้อโควิดในเด็กมีอัตราค่อนข้างสูง กังวลว่าหากเกิดการติดเชื้อแล้วจะมีอาการหนัก เชื้อลงปอดหรือปอดอักเสบ เพราะฉะนั้นเมื่อทราบว่ามีการนำเข้าวัคซีนเด็กเข้ามา จึงตัดสินใจให้บุตรหลานมาฉีดวัคซีนเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรค อยากชวนครอบครัวที่มีเด็กเล็กมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ.