เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรับร้องเรียนจากนายกิตติศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 5 ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ลูกสาววัย 7 ขวบ ถูกสุนัขของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามกัดหน้าบาดเจ็บสาหัสไม่รับผิดชอบ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบชาวบ้านในหมู่บ้านจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณที่เกิดเหตุห่างบ้านนายกิตติศักดิ์ เพียง 30 เมตร โดยที่เกิดเหตุยังพบคราบเลือดกระจัดกระจายอยู่ทั่ว ส่วนหนูน้อยที่บาดเจ็บเบื้องต้นถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด จากนั้นนายกิตติศักดิ์ ได้เปิดรูปโทรศัพท์มือถือให้ดู รูปบาดแผลบนใบหน้าลูกสาว สภาพบริเวณดั้งจมูกมีรอยเขี้ยวและฟันใกล้ดวงตา และบริเวณแก้มซ้ายเป็นแผลกว้างลึกจนหนังและเนื้อแก้มหายไป น่าสยดสยอง
นายกิตติศักดิ์ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับลูก หลังจากลูกกินข้าวเสร็จก็ได้เดินออกมาเล่นหน้าบ้านตามปกติเป็นประจำ จากนั้นผ่านไปประมาณ 5 นาที ลูกชายคนเล็กวิ่งเข้ามาบอกว่าพี่สาวโดนหมากัด และได้ยินเสียงร้องของเพื่อนบ้านว่า หมากัดเด็ก จึงรีบวิ่งออกไปดูพบลูกสาวถูกสุนัขพันทางสีดำ กัดใบหน้าแก้มฉีกขาดเป็นแผลเหวอะขนาดใหญ่ เลือดไหลนอง ส่วนหมาที่กัดลูกสาววิ่งเตลิดหนีเข้าป่าหลังหมู่บ้านไป จึงรีบพาลูกสาวส่งโรงพยาบาลประจันตคาม ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งลูกสาวเพิ่งออกจากห้องผ่าตัดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (13 ต.ค.) ยังอยู่อาการสะลึมสะลือและอาเจียน
นายกิตติศักดิ์ เล่าอีกว่า หลังจากเกิดเหตุได้ไปสอบถามเพื่อนบ้านฝั่งซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าของหมา แต่กลับปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าของหมา และไม่ได้เลี้ยงหมาตัวดังกล่าว ทั้งที่ตนและเพื่อนบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านต่างก็เห็นมาตลอดว่าเพื่อนบ้านคู่กรณีให้อาหารหมาเป็นประจำ หลังจากที่พูดคุยแล้วทางคู่กรณีซึ่งเป็นเพื่อนบ้านยืนยันว่าจะไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงเดินทางไปแจ้งความยัง สภ.ประจันตคาม ทางตำรวจแจ้งว่าจะเรียกคู่กรณีเข้าไปสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 20 ต.ค.นี้ ซึ่งตนใจร้อนสงสารลูก เกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องสื่อช่วยตรวจสอบเป็นพยานอีกทาง
จากนั้นผู้สื่อข่าวสอบถามเพื่อนบ้านคู่กรณี เบื้องต้นกล่าวว่า หมาตัวดังกล่าวไม่ใช่ของตน โดยตนเลี้ยงหมาอยู่ที่บ้านเพียง 1 ตัว ชื่อเจ้าแดง สุนัขพันธุ์ไทยสีน้ำตาล ส่วนหมาตัวสีดำที่กัดเด็ก มักจะมาเดินเล่นในบริเวณหมู่บ้านได้ประมาณปีหนึ่งแล้ว ซึ่งบางครั้งก็เกิดความสงสาร จึงแบ่งอาหารให้กินบ้างบางเวลา ส่วนทางเพื่อนบ้านผู้เสียหายกล่าวว่า หมาสีดำตัวที่กัดเด็กเป็นหมาตนนั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่หมาของตนอย่างแน่นอน
