ล้อมวงกันเข้ามาได้แล้วจ้าเหล่าผู้อ่านที่น่ารักของพวกเรา “ชาวบ้าน 1/4” มาพบกันอีกแล้วจ้ากับคอลัมน์เริ่ดๆ อย่าง “คันปากอยากเม้าท์” สัปดาห์นี้คงจะหนีไม่พ้นความร้อนแรง และความต่อเนื่องในการพูดถึงบนโลกออนไลน์ สำหรับกรณีของนักร้องหนุ่ม “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” หลังออกมาประกาศว่าจะทำภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ช่วยเหลือสังคมอีกครั้ง ในโครงการ “One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” ที่จะว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง เพื่อระดมเงินบริจาคมอบให้กับโรงพยาบาล 2 ฝั่งโขง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษาผู้ป่วย โดยภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ได้เชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ด้วยการช่วยกันทำความสะอาดแม่น้ำไทยและลาว ให้สวยงาม ปราศจากขยะ

บอกเลยว่าหลังจากเรื่องราวภารกิจครั้งใหญ่ของหนุ่มโตโน่ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกสังคมออนไลน์ ต่างก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตจนแบ่งกันออกเป็น 2 เสียง มีทั้งฝ่ายที่ออกมาชื่นชมกับความมุ่งมั่นตั้งใจของนักร้องหนุ่ม เช่น “ทุกสิ่งที่ทำ คือ คิดดีแล้ว” ทีมงานเตรียมการอย่างดี อุปกรณ์พร้อม ลดความเสี่ยงของทุก ๆ คนอยู่แล้ว “และทีมงานทุกคนทำด้วยใจ เพื่อให้ ขอให้ความดีคุ้มครองทุกคนค่ะ”

ขณะที่อีกฝ่ายที่เห็นต่างก็มีการพูดถึงอย่างมากไม่ต่างกัน จนเกิดมีการติดแฮชแท็ก “#โตโน่” ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ทันที โดยส่วนใหญ่ก็ต่างพากันออกมาเตือนด้วยความเป็นห่วงมาก เช่น “เจตนาดี แต่วิธีการผิด มันไม่ได้ดูหล่อหรือเท่เลยนะครับ” เอาจริงๆ ไม่มีใครอยากเห็นคุณว่ายน้ำข้ามโขงหรอกครับ คุณคิดไปเองว่ามันเป็นการสร้างความตระหนักให้ทุกคน แต่เอาจิง พองานจบ มันก็เหมือนเดิม บ้างก็มีบอกว่า “สงสารหมอพยาบาลที่ต้องมารับภาระถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา” บ้างก็บอกอีกว่า ไม่เห็นประโยชน์จากการว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงเลย “ปากบอกว่าหมอ พยาบาลลำบาก แต่ก็ยังจะหาเรื่องให้เขาลำบากขึ้นไปอีก” แทนที่เขาจะได้ทำงานก็ต้องมาสแตนด์บายดูคุณพี่อีกเนี่ย ทำอะไรก็คิดเยอะๆ หน่อยค่า

ซึ่งกระนั้นหนุ่มโตโน่ก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจอันมุ่งมั่น และยืนยันที่จะทำมันสำเร็จ พร้อมทั้งบอกว่า “ใครจะตัดเอาภาพไหนประโยคไหน หรือจะตัดเสียงผมไปใช้ ไม่เป็นไรเลยครับ ผมเข้าใจดีว่าผมต้องโดน ผมได้ยินว่าตอนนี้ผมกำลังดังในทวิตเตอร์ ผมดังอีกแล้ว ผมเหนื่อยจังเลยครับ กับความดังของผม” ซึ่งดูเหมือนว่าจะจบแต่กลับถูกขุดดราม่ามาเรื่อยๆ ทั้งเรื่องเอกสารที่หลุดจากสื่อท้องถิ่นใน จ.นครพนม คนหนึ่ง โพสต์รูปเอกสารการประชุมของจังหวัดนครพนมจำนวน 4 หน้า และพบว่า “มีภารกิจที่ต้องเตรียมการเพื่อโครงการของโตโน่มากถึง 33 ภารกิจ” เกี่ยวพันหน่วยงานทั่วจังหวัด ตั้งแต่เทศบาล อำเภอ โรงพยาบาล ทหาร ตำรวจ การไฟฟ้า การประปา สำนักงานพระพุทธศาสนา ตรวจคนเข้าเมือง ยันชมรมนกเป็ดน้ำ จนเกิดเป็นคำถามมากมายจากประชาชน ไหนจะเรื่อง “อุโมงค์น้ำ” ที่ถูกนิสิตมหาวิทยาลัยชื่อดังออกมาแฉ “ทำไมโตโน่ใช้อุโมงค์น้ำในคณะเพื่อทดสอบได้ฟรี ทั้งที่เรียนอยู่ไม่เคยได้ใช้” จนหาวิทยาลัยต้องออกมาชี้แจงกันจ้าละหวั่นวุ่นวาย ตอบผิดๆ ถูกๆ เหมือนไม่ได้เตี๊ยมกันมา

ท้ายที่สุดแล้ว..เรื่อง “จิตอาสา” ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการมุ่งมั่นทำเพื่อส่วนรวมด้วยใจ ไม่หวังผลตอบแทน และไม่แสวงหาผลกำไร แต่เมื่อพอมันเป็นเรื่องใหญ่ และเกี่ยวข้องกับผู้คนเป็นวงกว้าง “ย่อมเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์” ขึ้นตามมาอย่างแน่นอน ซึ่งหากเป็นเรื่องราวดีๆ ก็ต้องมีคนส่งเสริมแน่นอนอยู่ แต่เรื่องบางเรื่องหากมีข้อฉุกคิดก็ต้อง “ฟังเสียงความคิดเห็นบ้างนะ” และตีความออกมาดีๆ ว่าสิ่งที่หลายๆ คนพูดนั้นหวังดีหรือไม่ แต่สุดท้ายหากเรื่องราวดีๆ ก็ยินดีด้วย แต่ถ้ากระทบหลายส่วน และเป็นสิ่งที่มีข้อเสียมากกว่าข้อดี ก็ต้องย้อนกลับมาทบทวนอีกครั้งว่า “สร้างประโยน์หรือก่อให้เกิดภาระกันแน่?”..

———————————————
คอลัมน์ “คันปากอยากเมาท์”
โดย “เมี้ยนฤดี”