เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่กองทัพเรือ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือต่อ นาวาเอกปารัช รัตนไชยพันธ์ รองเลขานุการกองทัพเรือ พร้อมนำหลักฐานแผนผังทหารเรือที่มีพฤติกรรมค้ายาเสพติด เคยขนยาเสพติดเข้ามาใน กทม. กว่า 10 ครั้ง โดยลักษณะทำกันเป็นขบวนการใหญ่ และรู้เห็นเป็นใจปล่อยให้หลบหนี

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า เริ่มต้นจากเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำโดยผู้ใหญ่บ้านบ้านกองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้จับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางยาบ้า 2 ล้านเม็ด, ไอซ์ 116 กิโลกรัม และเคตามีน 40 กิโลกรัม จากนั้นได้มีทหารเรือหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ได้นำยาเสพติดของกลางไป เพื่อเอาผลงาน และได้ทำบันทึกการจับกุม โดยลงชื่อชุดจับกุมทั้งหมดไว้

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ภายหลังทราบว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ขณะที่มีการจับกุมผู้ต้องหา จึงมีการให้เปลี่ยนแปลงสำนวนคดี โดยการเปลี่ยนชื่อชุดจับกุมทั้งหมด จึงเป็นการทุจริตต่อการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งในส่วนของทหารเรือ และตำรวจจังหวัดหนองคาย นอกจากนี้ ยังได้มีการขยายผลการจับกุมพบว่า มีทหารเรือ ชื่อ “จ่ากุ้ง” ได้มีส่วนรู้เห็นกับการขนยาเสพติดลอตนี้ด้วย จึงได้มีการออกหมายจับในเวลาต่อมา และเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้ควบคุมตัวจ่ากุ้งไว้ได้ ขณะเตรียมรถยนต์ 2 คัน ไว้ขนยาเสพติดลอตใหญ่ที่ จ.หนองคาย แต่กลับช่วยเหลือปล่อยตัวไป ทั้งที่มีหมายจับอยู่

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในวันนี้ตนจึงมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อให้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และขอให้สั่งพักราชการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด จนกว่าจะสอบสวนเสร็จสิ้น เพราะจากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า จ่ากุ้ง มีพฤติกรรมขนยาเสพติดมาตั้งแต่ปี 2560 โดยเชื่อว่ามีนายทหารเรือระดับผู้ใหญ่ หนุนหลังอยู่ หากปล่อยให้กลุ่มขบวนการนี้ยังลอยนวล ก็จะยิ่งทำให้เกิดผลเสียสร้างปัญหายาเสพติดแก่ประเทศชาติต่อไป

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายอัจฉริยะ ได้เดินทางมาที่กองทัพบก เพื่อยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ผ่านนายทหารปฏิบัติการประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบก พ.อ.หญิงรพีพัทธ์ ตรีจิตรฐิติกุล เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เจ้าหน้าที่ทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจับกุมยาบ้า 2 ล้านเม็ด ทั้งที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ และให้ตั้งคณะกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ที่รู้เห็นกับการปล่อยตัวจ่ากุ้ง ทั้งที่มีหมายจับ เพื่อขอให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และให้มีคำสั่งพักราชการหรือย้ายออกจากพื้นที่ทั้งหมด จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น.