เมื่อวันที่ 15 พ.ย. น.ส.เกวลิน มงคลชัยฤกษ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 20 ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี อาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง พร้อมผู้เสียหายรวม 12 ราย ร่วมเข้าพบ พ.ต.อ.ชัยกฤต โชติวรรณ ผกก.สภ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพื่อแจ้งความจับ น.ส.ชัชวาล เหนือโชติ อายุ 40 ปี นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเขมราฐ จ.อุบลราชธานี (ระดับหรือซี 7) ซึ่งมีพฤติกรรมปลอมแปลงเอกสารราชการ หลอกลวงผู้เสียหายโดยอ้างโครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” ทำให้มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อโอนเงินให้รวมมูลค่าหลายล้านบาท

น.ส.เกวลิน ให้การว่า รู้จักกับ น.ส.ชัชวาล เพราะเคยได้รับงานของทางราชการ กระทั่งเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ได้รับการติดต่ออีกครั้งและมีการนัดคุยกันในสถานที่ราชการโดยข้าราชการรายนี้อ้างว่าจะจัดจ้างตรงให้ดำเนินการตามโครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” แต่ในวันทำสัญญากลับมีการเรียกเก็บเงิน ซึ่งระบุว่าเป็นเงินค้ำประกันงาน 5 เปอร์เซ็นต์ ตามระเบียบราชการ จึงยอมโอนให้ไปรวม 4,480,434 บาท เนื่องจากเห็นว่าสามีของ น.ส.ชัชวาล เป็นถึงปลัดอำเภอ ทั้งในเอกสารราชการยังมีลายเซ็นของ รอง ผวจ. และนายอำเภอ ด้วย

ผู้เสียหาย ให้การต่อว่า ประกอบกับเห็นว่าหน้าที่การงานของราชการรายนี้ดูมั่นคง ทำให้เกิดความน่าเชื่อถืออย่างมาก แต่หลังจากนั้นกลับไม่สามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ตามแผนที่กำหนด จึงพยายามค้นหาข้อเท็จจริง จนทราบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกันเป็นสิบรายยอดความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทแน่ จึงนัดรวมตัวกันมาแจ้งความดังกล่าว เพื่อเอาผิดข้าราชการขี้ฉ้อรายนี้ ส่วนสาเหตุทราบจากผู้เสียหายร่วมว่าเกิดจากการหนี้สินพนันออนไลน์ที่เจ้าตัวติดอยู่จำนวนมาก

นายสะอาด วงศ์รักษ์ นายอำเภอเขมราฐ กล่าวว่า ขณะนี้ตนถือว่าตกเป็น 1 ในผู้เสียหายเช่นกัน เนื่องจากผู้ใต้บังคับบัญชารายนี้แอบปลอมลายเซ็น จึงมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาลงโทษทางวินัย ส่วนคดีอาญาคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นถือว่าสร้างเสื่อมเสียต่อองค์กรมาก เพราะมีการแอบอ้างใช้โครงการที่มีอยู่จริงหลอกทำสัญญาประกันปลอม เพื่อฉ้อโกงผู้รับเหมา ซึ่งขณะนี้ได้มี คำสั่งที่ 43703 /2565 ให้ย้ายไปช่วยราชการที่กลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว

ขณะที่ พ.ต.อ.ชัยกฤต โชติวรรณ ผกก.สภ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ได้กำชับให้พนักงานสอบดำเนินการด้วยความรวดเร็วและรอบคอบ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นถึงข้าราชการระดับสูง โดยขณะนี้ทราบว่ามีการแจ้งความทั้งจากทางผู้รับเหมาและทาง รอง ผวจ. รวมถึงนายอำเภอ ซึ่งจากการพิจารณาเบื้องต้นพบว่าเข้าข่ายความผิดฐาน “ฉ้อโกงและปลอมแปลงลายมือชื่อ รวมทั้งปลอมแปลงเอกสารทางราชการ แต่หากในการสอบสวนพบความผิดอื่นอีกจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม โดยหลังจากนี้จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำเพื่อส่งต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.