เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว “กัญชาทางการแพทย์แผนอนุทิน” ว่า แน่นอนเรื่องดี นายอนุทินก็ต้องถือเป็นผู้ผลักดัน พรรคประชาธิปัตย์พูดถูก “กัญชาแผนอนุทิน ถูกต้องไหม ไม่ใช่กัญชาสาธิต วงศ์หนองเตย นะ เพราะสาธิต ปิตุเตชะ เอากับผมทุกเรื่องอยู่แล้ว”
 
ส่วนที่มีการระบุว่า เป็นนโยบายการแพทย์ที่ผิดเพี้ยนนั้น นายอนุทินกล่าวว่า “คนเพี้ยนก็ต้องคิดว่าเป็นเรื่องเพี้ยน ถ้าเพี้ยนจริง ท่านคงไม่ทำงานให้ผมหรอก” ทั้งนี้ ขอย้ำว่ากระทรวงสาธารณสุข มีแต่กัญชาทางการแพทย์ สุขภาพเศรษฐกิจ ไม่มีกรอบอื่น ท่านอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย หลังประกาศมีผลก็ลงไปทำความเข้าใจผู้ประกอบการทั้งหลายให้เน้น เรื่องสุขภาพ ทางการแพทย์เท่านั้น สันทนาการไม่ได้อยู่ในวัตถุประสงค์ เรื่องนี้พูดตั้งกี่ครั้งแล้ว ในร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ก็มีแล้ว อย่างที่เรียน คนที่มาพูดเป็นอื่น พรรคอื่นๆ ที่พูดก็รู้อยู่แล้วว่า อย่าไปกลัวกัญชา ทำความดีไว้ คิดถึงประชาชนไว้ อย่างไรประชาชนก็เลือกเอากัญชามา
 
ทั้งนี้หากบล็อกกัญชา นโยบายกัญชาถูกบล็อก แล้วจะถึงวันโลกาวินาศของพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคยังมีนโยบายอีกมากเพื่อประชาชน เอาใจใส่ประชาชนเพิ่มเติม ขยายโอกาสทางเศรษฐกิจอื่นๆ มากมาย ไม่ใช่เรื่องกัญชาเรื่องเดียว ระวังจะย้อนกลับ และเรามีประกาศ สธ.อยู่แล้ว แต่ที่ต้องออกร่าง พ.ร.บ.กัญชา นั้น เป็นเรื่องที่ออกมาเพื่อให้ประชาชนเกิดความสะดวก สบายใจ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเกิดความสะดวก คล่องตัวในการทำงาน ถึงมีเจตนารมณ์ร่างกฎหมายออกมา แต่สิ่งที่ ภท. ตน เข้ามา คือตั้งใจปลดล็อกออกจากยาเสพติด ผ่านกรรมการ ป.ป.ส. ทั้งนี้ หากใช้อย่างถูกวิธี เพื่อการแพทย์ เศรษฐกิจ สุขภาพประชาชน จะเกิดประโยชน์เท่านั้น ใครทำนอกเหนือจากนี้ แตกต่างจากนี้ ถือว่าผิดกฎหมายที่มีประกาศ สธ. กำกับ หากรักและเป็นห่วงปราชน ต้องการให้นโยบายกัญชาทางการแพทย์เกิดประโยชน์ คือออกร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ใช่คว่ำร่างฯ ย้ำว่า สธ.ทำอะไรไม่ได้อ้างอะไรทั้งสิ้น เราผลักดันก่อนการเลือกตั้ง และไม่มีข้าราชการ สธ.คนไหนที่จะทำตามคำสั่งที่เกิดโทษกับประชาชน ไม่มีใครสั่งได้  

ทางด้าน นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ขอใช้สิทธิพาดพิงที่มีการพูดถึงตนโดยตรง และให้ข้อมูลที่ทำให้ประชาชนที่อ่านข่าวเกิดความเข้าใจผิด ดังนั้นขอชี้แจงประเด็นแรก เขายืนยันว่ากัญชามีประโยชน์ แต่กัญชาจะมาเดี่ยวๆ ไม่ได้ ต้องมีกฎหมายมาควบคุม ซึ่งตรงนี้เป็นที่ยอมรับ ที่บอกว่าเอากลับไปเป็นยาเสพติดดีหรือไม่นั้น ตนขอชี้แจงว่า กัญชามีประวัติมายาวนาน ไม่ใช่เพิ่งจะมามี ในประเทศไทยมีภูมิปัญญาเรื่องกัญชาที่มีบันทึกมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีตำรับยาใช้มาตลอด เป็นเรื่องที่เรามีโอกาสที่จะนำไปใช้ประโยชน์  
 
ประเด็นที่ 2 ระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมาย ก็อยากให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันพิจารณาให้กฎหมายปัญญาออกมาบังคับใช้ ถ้าท่านมีข้อคิดเห็นประการใด ท่านก็สามารถใช้กระบวนการในสภาดำเนินการได้ ใช้กระบวนการประชาธิปไตยที่เราเห็นด้วยเข้าไปดำเนินการตรงนี้ ไม่อยากให้มาโจมตี ในฐานะที่ตนเป็นข้าราชการที่ทำตามกฎหมาย ตามกระบวนการที่ทำอยู่ วันนี้ยังไม่มีกฎหมายใหญ่ออกมา เรามีประกาศ สธ.เพิ่ม และเวลาใช้ประกาศ สธ.อย่าใช้กับฉบับเดียว ถ้าจะใช้ฉบับเดียว ก็กรุณาออกกฎหมายกัญชาออกมา ถ้ามีอะไรที่เป็นข้อกังวล ก็ไปออกกันในสภา อันนั้นไม่ใช่หน้าที่ของตน หน้าที่ของตนคือการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งก่อนออกประกาศคุมช่อดอกผ่านการพิจารณาที่มีนักกฎหมายทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงกฤษฎีกาอยู่ในนั้นด้วย
 
ทั้งนี้ การคุมเฉพาะส่วนสามารถทำได้ เพราะในมาตรา 44 กำหนด เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสมุนไพรให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการมีอำนาจในการออกประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดประเภท ลักษณะ ชนิดและชื่อสมุนไพร ที่มีคุณค่าต่อการศึกษาวิจัย มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ อาจจะสูญพันธุ์ ดังนั้นกรุณาไปดูว่ามีเวิร์ดดิ้งอยู่ 3 เรื่อง ที่สามารถกำหนดได้ ส่วนการที่เราไม่คุมทั้งหมด เพราะจะเป็นภาระของประชาชนในการที่จะต้องมาขออนุญาต มีความยุ่งยาก ความเป็นไปไม่ได้ในการจัดการ และไม่ได้มีผลอะไรมาก โดยข้อมูลทางวิชาการชัดเจนว่าส่วนอื่นที่ไม่ใช่ช่อดอกไม่ว่าจะเป็นกิ่ง ก้าน ราก ใบ มีสาร THC ไม่สูง ขณะเดียวกันก็มีสาร CBD ที่มาทำให้ผลของ THC ออกหรือต่อจิตประสาทลดลง มีงานวิจัยรองรับว่าการใช้ใบสูบ  
 
นพ.ธงชัย กล่าวอีกว่า กรณีที่ระบุว่า การปลูกกัญชาของวิสาหกิจชุมชนไม่มีมาตรฐาน มีสารปนเปื้อนนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงเกินไป จากการลงพื้นที่ เช่น อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี และวิสาหกิจชุมชนต่างๆ มีการปลูกในโรงเรือน และเรียนรู้ต่อเนื่อง ตรวจคุณภาพดิน หากไม่มีสารปนเปื้อนก็ปลูกในโรงเรือน หากมีก็ปรับมาปลูกในกระถาง นำกัญชาไปทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ข้อมูลเหล่านี้สามารถหาได้ในเมืองไทย ไม่เชื่อว่าสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติจะไม่ทราบเรื่องเหล่านี้ อีกทั้งก่อนนำมาใช้มีภูมิปัญหาแพทย์แผนไทยอยู่จำนวนมาก ผ่านการตรวจสอบประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนขึ้นทะเบียนยาหลักแห่งชาติ ซึ่งตอนนี้มี 10 ตำรับ ก็ผ่านคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นการที่พูดเช่นนี้ เป็นการไม่ให้เครดิตกับประเทศไทย ทั้งระบบ อย. ประเทศไทย คณะกรรมการบัญชียาหลักของประเทศไทย ซึ่งตนขอการันตีว่า กัญชาวิสาหกิจชุมชนที่นำมาใช้นั้นมีคุณภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายอนุทินยังเปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 12/2565 ว่า ได้หารือถึงการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน โดยสามารถมารับวัคซีนที่ รพ. หรือสถานพยาบาลทุกระดับ หากเป็นไปได้ ขอให้ผู้อำนวยการ รพ. ทั้งหลาย ประสานกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ออกไปให้บริการประชาชน ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 143-144 ล้านโด๊ส ยังไม่ปรากฏหลักฐานว่าจะเป็นอัตราย หรือมีการแพ้อย่างมีนัยสำคัญ ถ้าเป็นคนที่มีสุขภาพดีทั่วไป การให้บริการเคลื่อนที่ออกไปฉีดให้ประชาชน เพื่อให้ความสะดวกเต็มที่ จึงขอความกรุณาให้ประชาชนมารับ เพราะเป็นประโยชน์มหาศาล 
 
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า เดือน ธ.ค.นี้เป็นเดือนสุดท้ายของปีที่มีผู้คนท่องเที่ยวมากมาย ผู้ประกอบการต้องรับลูกค้าเพิ่มมากขั้น มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย มีการเดินทาง มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยด้วย ยกตัวอย่างคนที่เข้าไปดูฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ดูเสร็จอาจจะมาเที่ยว หรือมาเช็กอัพ มาทำธุรกิจที่ประเทศไทยต่อ คนเหล่านี้อาจจะมีความเสี่ยงนำเชื้อมาติดได้ หากเราฉีดวัคซีนแล้วก็สามารถให้บริการดูแลพวกเขาได้อย่างเต็มที่ เป็นการให้โอกาสต่างๆ ไม่ให้สูญเสียไป สามารถสร้างรายได้ จึงเป็นสิ่งที่ สธ. อยากจะขอกราบวิงวอนให้มารับวัคซีนให้ได้ตามกำหนด นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. ซึ่งขณะนี้ติดโควิด แต่ได้รับวัคซีน 4 เข็มแล้ว อาการจึงไม่รุนแรง ล่าสุดตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามอาการ ท่านตอบว่าสบายดี 
 
เมื่อถามถึงช่วงสิ้นปีมีกิจกรรมต่างๆ มากมายเกิดขึ้น กังวัลจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อมากขึ้นหรือไม่ และจะมีมาตรการเพิ่มอย่างไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จึงรณรงค์ให้มารับวัคซีน หากมัวแต่กังวลก็คงทำอะไรไม่ได้ เราปิดประเทศไม่ได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำคือหุ้มเกราะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เวลาเราใส่เสื้อเกราะ โดนทุบตีก็มีเจ็บบ้างแต่ไม่ตาย หลักเดียวกัน จึงพยายามรณรงค์ให้มาฉีดวัคซีน.