กรณีสาวรายหนึ่ง โพสต์ข้อความแชร์ประสบการณ์ สูญเสียเงินไปกว่าครึ่งแสน จากแอพซื้อของออนไลน์บริษัทดังรายหนึ่ง หลังทำธุรกรรมออนไลน์แอพซื้อของดังกล่าวกับบัญชีธนาคารไว้ ปรากฏว่าถูกถอนเงินจากบัญชีไปรวม 9 ครั้ง จากเงิน 50,000 บาท เหลือเพียง 400 บาท พอสอบถามไป กลับปัดรับความผิดชอบ จึงออกมาโพสต์เตือนภัยชาวนักช้อปออนไลน์ ขณะที่ต่อมาทาง คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รวบรวมข้อมูล เชิญทาง ช้อปปี้ เพย์ (Shopee Pay) เจ้าของ แพลตฟอร์ม ช้อปปี้ ชี้แจงกรณีดังกล่าว ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
นักช้อประวังให้ดี! สาวผูกบัญชี ‘แอพดัง’ ถูกดูดเงินครึ่งแสน ‘ปัดรับความผิดชอบ’
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจากเหตุการณ์เงินในบัญชีถูกตัดผ่านแอพพลิเคชั่นซื้อของออนไลน์ลักษณะเดียวกันอีกหลายราย มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท รวมตัวกันมายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม ที่ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยมี พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รอง เลขาธิการ สคบ. เป็นผู้รับเรื่อง พร้อมเปิดเผยว่า เบื้องต้นน่าจะมีการแฮกเงินในระบบ ซึ่งต้องดูว่าเกิดจากจุดไหน บริษัทที่ถูกร้องต้องเข้ามาให้ข้อเท็จจริง จากการรับฟังข้อเท็จจริง ตั้งข้อสังเกตได้ว่า คนที่เข้าไปแฮกเงินจะต้องมีความรู้พอสมควร ซึ่งอาจจะเป็นคนภายในที่มีส่วนรู้เห็น หรือ เป็นโจรโดยตรง ที่สามารถแฮกระบบได้ ซึ่งสามารถเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด
“สกมช.” สั่งช้อปปี้แจงกรณีลูกค้าผูกบัญชีกับแอพแล้วถูกดูดเงินออก
“สคบ. ยินดีที่เป็นตัวกลางในการประสานงาน หากเป็นเรื่องคดีอาญา ก็จะประสานงานกับตำรวจให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายราย อย่างไรก็แล้วแต่ ในการสืบสวนโดยระบบจะมีความยุ่งยากซับซ้อนพอสมควร แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการจะสามารถให้รายละเอียดได้ ซึ่งทาง สคบ. จะเร่งดำเนินการให้คงใช้เวลาไม่นาน” พ.ต.อ.ประทีป กล่าวทิ้งท้าย
