เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า พะยูนในประเทศไทยพบแพร่กระจายอยู่บริเวณแหล่งหญ้าทะเลทั้งอ่าวไทยและอันดามัน แบ่งเป็นกลุ่มประชากรย่อย ที่อาศัยอยู่บริเวณเกาะต่างๆ ประกอบด้วยเกาะลิบง เกาะมุก และอ่าวสิเกา จ.ตรัง เกาะศรีบอยา เกาะปู เกาะจำ และอ่าวนาง จ.กระบี่ เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ อ่าวพังงา จ.พังงา อ่าวป่าคลอก จ.ภูเก็ต เกาะลิดี เกาะสาหร่าย จ.สตูล เกาะพระทอง จ.พังงา หมู่เกาะกรูด จ.ตราด อ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี ปากน้ำประแส จ.ระยอง อ่าวสัตหีบ จ.ชลบุรี อ่าวทุ่งคาสวี จ.ชุมพร อ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี อ่าวปัตตานี จ.ปัตตานี และอ่าวเตล็ด จ.นครศรีธรรมราช

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

จากการสำรวจสถานภาพในปี พ.ศ. 2565 พบพะยูนประมาณ 273 ตัว โดยพื้นที่ฝั่งอ่าวไทยพบประมาณ 31 ตัว และพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน พบประมาณ 242 ตัว แม้ว่าจากการสำรวจพบประชากรพะยูนมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้นกว่าในอดีต แต่ยังมีการเกยตื้นหรือการตายของพะยูนอยู่ทุกปี ซึ่งมีการตายจากสาเหตุต่างๆ เช่น การเจ็บป่วย ลูกพะยูนพลัดหลง จากแม่ หรือสาเหตุอื่นๆ เช่นถูกกระแทกด้วยของแข็ง เงี่ยงปลากระเบนแทง อุบัติเหตุ และเครื่องมือประมง การเกยตื้นของพะยูนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (ต.ค. 2564-ก.ย. 2565) พบพะยูนเกยตื้นรวม 18 ตัว โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่จากการป่วยร้อยละ 73

สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ต.ค.-ธ.ค. 2565) พบพะยูนเกยตื้นรวม 7 ตัว โดยเป็นการเกยตื้นในพื้นที่ จ.ระยอง 1 ตัว, ชลบุรี 1 ตัว, ตรัง 2 ตัว, กระบี่ 1 ตัว, สุราษฎร์ธานี 2 ตัว โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่จากการป่วย 3 ตัว (ร้อยละ 43) สาเหตุจากการถูกกระแทกด้วยของแข็ง (กระดูกซี่โครงหัก) 2 ตัว ในพื้นที่ จ.ตรังและชลบุรี (ร้อยละ 29) สาเหตุจากการป่วยร่วมกับการคาดว่าติดเครื่องมือฯ 1 ตัว (ร้อยละ 14) และไม่ทราบสาเหตุจากสภาพซากเน่ามาก 1 ตัว (ร้อยละ 14)

นายอรรถพล กล่าวว่า ที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรฯ ได้ทำงานเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูเพิ่มจำนวนพะยูน รวมถึงสัตว์ทะเลหายากในท้องทะเลไทยมาโดยตลอด ผ่านกระบวนการทำงานภายใต้ “มาเรียมโปรเจคท์” ซึ่งผลความสำเร็จ สามารถเพิ่มจำนวนประชากรพะยูนในธรรมชาติจาก 250 เป็น 273 ตัว และในอนาคตจะเพิ่มขึ้น 280 ตัว และขอความร่วมมือผู้ประกอบการประมง นักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันสอดส่องดูแลทรัพยากรพะยูนในแต่ละพื้นที่ หากพบการลักลอบทำลายทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่ง และป่าชายเลน รวมถึงสัตว์ทะเลหายาก สามารถแจ้งเบาะแสมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทรัพยากรพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก จะได้อยู่คู่กับท้องทะเลไทยไปตราบนานเท่านาน.