เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. น.ส.ธนิดา แจ้งจำรัส หรือทนายนินู ทนายความ พร้อมด้วย น.ส.เอ และ น.ส.บี ทั้งคู่อายุ 39 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สมอาจ หมั่นอุตส่าห์ สารวัตรสอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยอ้างว่าถูก “นายทหารเรือ” รายหนึ่งอาศัยในหมู่บ้านย่านอำเภอไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวกันกับฝ่ายผู้เสียหาย ตามคุกคามข่มขู่จะเอาชีวิต มีการพูดจาหาเรื่องด่าทอด้วยคำหยาบคาย ต้องอยู่อย่างหวาดผวามานานเกือบ 1 ปี

โดย น.ส.บี อาชีพแม่ค้าขายอาหาร ให้การอ้างว่า เคสของตนเกิดขึ้นกลางเดือนมีนาคม 2565 หลังจากตนไปเดินผ่านหน้าบ้านคู่กรณีเพื่อจะไปซื้อของ อีกฝ่ายก็ออกมาด่าทอด้วยคำหยาบคาย ทำให้ตนต้องไปแจ้งความดำเนินคดี ปรากฏว่าตำรวจมาเจรจาไกล่เกลี่ยจนอีกฝ่ายยอมสงบ พอตำรวจกลับไปก็ยังทำพฤติกรรมเช่นเดิม จนคนในครอบครัวเริ่มหวั่นเกรงว่าชีวิตจะไม่ปลอดภัย บางวันถึงขั้นจะเอาปืนมายิงให้ตายหมด สุดท้ายต้องยอมย้ายบ้านหนีเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากกว่า วันนี้ที่มาเพราะห่วงบ้านของ น.ส.เอ เพราะกำลังจะกลายเป็นแบบตน โดนข่มขู่จนอยู่ไม่ได้

ขณะที่ น.ส.เอ ให้การอ้างว่า เคสของตนโดนอีกฝ่ายกล่าวหาว่า พ่อของตนไปด่าทอแม่ของเขา ทั้งที่พ่อตนหูตึงและไม่สามารถเดินหรือพยุงตัวได้ มีการข่มขู่ว่าหากเห็นพ่อของตนเดินอยู่หน้าบ้าน จะเข้ามาทำร้ายทันที มีการให้คนในครอบครัวคอยมองว่าพ่อตนเดินอยู่ไหน ถ้าเจอก็รีบบอก นายทหารเรือ ให้ออกมาตะโกนด่าทอข่มขู่ทันที เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยไป ชีวิตไม่เคยได้สงบสุข เคยแจ้งความแล้ว ตำรวจก็ให้ลงประจำวันไว้เท่านั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. มาด่าทอพ่อตนและขู่จะยิงกราดด้วย ทำให้ชีวิตครอบครัวไม่ปลอดภัย อีกทั้งพ่อเพิ่งผ่าตัดมา ไม่ค่อยแข็งแรง ฝากต้นสังกัดหรือผู้บังคับบัญชาด้วยว่า ให้ช่วยหยุดพฤติกรรมของทหารนายนี้โดยเร็ว

ด้านทนายนินู กล่าวว่าวันนี้ตนพาผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณพ่อและคนในบ้าน พร้อมนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่มีพฤติกรรมของทหารนายนี้ มีทั้งเรื่องข่มขู่ รวมถึงเสียงด่าทอที่ทำให้เสียหาย ตนจึงอยากฝากว่า “….จะเก่งยังไงก็ต้องนึกถึงสิ่งที่ตามมาด้วยอำนาจของคุณไม่มีล้นเหลือ บ้านเมืองมีกฎหมาย ดังนั้นในทางคดีตนก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด….”

ในเบื้องต้นจากที่ดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิดพฤติกรรมของจ่าทหารคนดังกล่าวเข้าข่ายฐานความผิดคือ ข่มขู่ ในมาตรา 329 อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนจะแจ้งเรื่องไปยังต้นสังกัดของทหารนายนี้ให้ดูแลควบคุมพฤติกรรมอย่างเคร่งครัด เพราะการทำพฤติกรรมแบบนี้เป็นภัยต่อสังคม หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ก็อาจทำให้เกิดเหตุการร้ายแรงกว่านี้ขึ้นได้