เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. แถลงการจับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 66 ปี อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง หลังแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อเปิดบัญชีรับบริจาคเงินทำพิธีบายศรีขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อชะตาบนเฟซบุ๊ก โดยจับกุมได้ที่บ้านพักในซอยพัฒนาการ 44 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า ภายหลังตำรวจสืบทราบข้อมูล ได้รับคำสั่งให้ติดตามตรวจสอบและพบว่า ผู้ต้องสงสัยมีบ้านพักอยู่ย่านสวนหลวง จึงเดินทางไปเชิญมาสอบปากคำ โดยเจ้าตัวเป็นอาจารย์เกษียณอายุ พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ระบุว่า ตัวเองไร้เจตนาไม่ดี เพียงเพราะมองว่า หากวิทยาศาสตร์ช่วยไม่ได้ก็ต้องใช้พิธีกรรมเข้าช่วย

ซึ่งจากการสอบปากคำพบว่าเจ้าตัวมีสติเต็มร้อย และไม่พบว่าเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามกฎหมายอาญา ม.112 แต่เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามกฎหมายอาญา ม.343 และ ม.344, นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ม.14(1) โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และความผิดตาม พ.ร.บ.เรี่ยไร มีโทษปรับ 200 บาท ซึ่งผู้ต้องหาให้การภาคเสธในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบยอดเงินบริจาคพบว่ามียอดเกือบ 7 แสนบาท แต่โอนเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับพิธีกรรม โดยว่าจ้างผู้ทำพิธีที่สำนักงานใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปแล้ว 3 แสนบาท จากนี้จะตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีความเชื่อมโยงไปบัญชีผู้ใดบ้าง สำหรับผู้ที่โอนเงินบริจาคไปแล้ว สามารถมาแสดงเจตจำนงและร้องทุกข์กล่าวโทษที่ บก.สอท.1 ได้หากต้องการเงินคืน พร้อมฝากถึงประชาชนด้วยว่า ขอให้ระมัดระวังการโพสต์ต่างๆ ที่มีลักษณะก้าวล่วงเบื้องสูงในช่วงเวลานี้