จากกรณี หญิงลูกจ้างร้านทุเรียน ถูกนายจ้างชายข่มขืน เมื่อเมียของนายจ้างจับได้ ก็ถูกซ้อมทรมานอย่างทารุณ แต่ไปแจ้งความตำรวจกลับไม่สนใจติดตามคดี จนผู้เสียหายต้องไปร้องกับสายไหมต้องรอด วันนี้ รายการโหนกระแส มาพูดคุยกับผู้เสียหาย

เมื่อวันที่ 13 ก.พ. คุณเอ สาวผู้เสียหายเล่าว่า เคยทำงานที่ร้านขายทุเรียนแห่งนี้กับสามีเมื่อปี 64 ต่อมาก็ลาออกกันไปทั้งคู่ ก่อนจะขอกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว แต่สามีไม่ได้กลับมาทำด้วย ตอนแรกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทำงานปกติมาตลอด วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนกับเพื่อนๆ จะไปเที่ยวพูลวิลล่ากัน เฮียมาถามตนว่า ตนมีเงินใช้ไหม ถ้าไม่มีให้ไปเอาที่ห้อง แต่ตอนนั้นตนไม่ได้ไป คิดว่าปกติไม่มีอะไร เป็นการเบิกเงินค่าจ้างล่วงหน้าที่ลูกจ้างทุกคนจะไปเบิกอยู่แล้ว

ต่อมาวันที่ 4 ม.ค. ตนกลับมาทำงาน ตนพักอยู่คนเดียว จู่ๆ เฮียมาเคาะประตู แล้วบุกเข้ามาในห้อง ขู่ว่าห้ามบอกใคร ถ้าใครรู้จะเอาให้ตาย ขู่ว่าหนีไปไหนไม่ได้หรอก แล้วเฮียก็ล่วงละเมิดตน หลังจากนั้นเฮียสั่งให้ตนทำตัวปกติ เฮียเป็นคนมีอิทธิพล เจ๊ ภรรยาของเฮียจับได้ วันที่ 9 ม.ค. เจ๊โทรฯ มาหาตน ซึ่งตอนนั้นสามีมาหาที่บ้านพักคนงานพอดี เจ๊ขอคุยกับสามีตน

สามีเล่าว่า เจ๊บอกว่าให้มาเคลียร์กัน สามีรู้ว่าเจ๊เป็นคนอย่างไร จึงบอกให้ภรรยาหนีไปอยู่บ้านญาติ ซึ่งตอนที่ไป เอาโทรศัพท์ของร้านติดตัวไปด้วย เจ๊สั่งให้ลูกน้องโพสต์ตามหา ขู่ว่าถ้าไม่กลับมาจะแจ้งความจับ ขู่ว่าจะตามไปถึงบ้านที่หนองคาย ตนจึงติดต่อหาเพื่อนเจ๊ให้มารับกลับ พอกลับไปถึงร้าน เห็นเฮียคุกเข่าอยู่หน้าเจ๊ พอเห็นตนกลับมา เฮียก็ลุกขึ้นมาตบตน ถามว่าทำแบบนี้กับเมียกูได้ยังไง เมียกูเจ็บช้ำน้ำใจ กล่าวหาว่าตนไปอ่อยเขา แล้วหลังจากนั้นตนก็ถูกซ้อมทรมานอย่างทารุณ จับแก้ผ้าทุบตีอย่างโหดร้าย และสั่งให้พนักงานทุกคนมายืนดู และอัดคลิปไว้ด้วย ที่โหดที่สุดคือจับแก้ผ้า ลากออกไปตากแดดกลางสนามร้อนๆ มัดไว้กับเสา แล้วทำร้าย

แล้วยังสั่งให้ลูกน้องไปเอากระสอบมา บอกว่าจะจับตนยัดกระสอบ บอกว่า “ชีวิตคนๆ เดียวกูรับผิดชอบได้” แต่ยัดกระสอบไม่ได้ จึงจับไปซ้อมต่อที่หลังร้าน เอากรรไกรมากล้อนผม

สุดท้ายเจ๊สั่งให้มัดตน แล้วให้คนงานเฝ้าไว้ ตนพยายามขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนงาน ให้ช่วยติดต่อสามีให้หน่อย คุณบีรีบมาดูภรรยา เห็นภาพแล้วทนไม่ได้ ต้องถอดเสื้อผ้าตัวเองให้เมียใส่ แล้วเจ๊เดินมาอีกรอบ แล้วมาพูดเรื่องเงินที่เบิกล่วงหน้าไป 59,000 บาท บอกว่าต้องเอาเงินมาคืน หรือทำสัญญากู้ยืมไว้ สั่งให้หาโฉนดที่ดินมาค้ำประกันไว้ ถึงจะไปได้ ระหว่างที่คุยก็ยังทุบตีตนไปด้วย

คุณคม น้าของผู้เสียหาย หลังทราบเรื่องก็รีบมาช่วยหลานทันที ไปเห็นสภาพใบหน้าหลาน น้าทำใจไม่ได้ เจรจากับเจ๊รอบหนึ่งแต่ไม่ลงตัว เพราะน้าไม่ได้เอาทรัพย์สินอะไรไปวาง แต่พอลงมาเห็นสภาพร่างกายหลานไม่ไหว เลยช่วยกันหนีออกมาทางหลังร้าน แล้วพาไปแจ้งความที่ สภ.ปลวกแดง ก่อนจะพาหลานไปหาหมอ

ตอนไปแจ้งความ ในบันทึกประจำวัน ตำรวจลงแค่ทำร้ายร่างกาย ไม่มีเรื่องอนาจาร ไม่มีล่วงละเมิดทางเพศ ขอเข้าไปแจ้งความเพิ่ม ตำรวจก็ไม่ให้แจ้งอีก บอกว่าให้มาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง คุณเอ บอกอีกว่าหลังแจ้งความไปแล้ว ทนายของเจ๊ยังบอกว่า ทนายได้โทรฯ คุยกับผู้กำกับไปแล้ว แจ้งความยังไงก็ไม่มีผล

ขณะที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งสายไหมต้องรอด บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ผู้เสียหายไม่ต้องกังวล ตนได้ติดต่อไปยัง บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ลั่นจะเอาผิดกับทุกคน ทั้งเฮียและเจ๊ คนที่ถ่ายคลิป ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น จะต้องโดนเอาผิดทั้งหมด

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าสายมายืนยันว่า เรื่องนี้จะดำเนินการให้ถึงที่สุด เท่าที่ตรวจสอบ สำนวนคดีที่ สภ.ปลวกแดง แทบไม่มีความคืบหน้า ได้ตำหนิทางชุดทำงานไปแล้ว และจะส่งพนักงานสอบสวนของตนลงไปช่วยทำงานในพื้นที่ด้วย เพื่อให้เรื่องนี้เดินหน้าถึงที่สุด ถ้าวันนี้พยานหลักฐานพร้อมจะออกหมายจับภายในวันนี้เลย

ด้าน หนุ่ม กรรชัย บอกว่า เรื่องหนี้ 59,000 บาท ถ้าทางผู้ก่อเหตุจะเอาคืน ให้ติดต่อมาหาตนได้เลย ตนจะจ่ายแทนให้ แต่มีข้อแม้ว่าสองผัวเมีย ที่ตอนนี้ได้ข่าวว่าหนีหายไปแล้ว ต้องติดต่อมาหาตนโดยตรง เพราะเรื่องนี้ต้องมีคนติดคุก เพื่อรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ

ขอบคุณข้อมูลจากรายการโหนกระแส