เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรค พท. เตรียมลงพื้นที่ปราศรัย ใน 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 17-19 ก.พ. 66 รวมทั้งหมด 9 เวทีปราศรัย เพื่อนำเสนอนโยบายและรับฟังความคิดเห็นประชาชน ร่วมกับ ส.ส. และผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. พรรค พท. ภายใต้แนวคิด “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรค นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรค

โดยวันที่ 17 ก.พ. เริ่มต้นที่เวทีพบปะประชาชน เวทีปราศรัยวัดม่วงเดียด หลวงพ่อลี อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ในเวลา 11.00 น. หลังจากนั้นจะไปเปิดเวทีปราศรัยที่ 2 อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ในเวลา 14.30 น. ก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ศาลากลางหลังเก่า อ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่ง จ.อุบลราชธานี ถือว่ามีความทรงจำร่วมกันระหว่างประชาชนกับการทำงานทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งเป็นพรรคไทยรักไทย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เริ่มต้นแคมเปญหาเสียงในพื้นที่ภาคอีสาน โดยชวนแกนนำพรรค รัฐมนตรี ขึ้นรถไฟออกจากวารินชำราบ การไปอุบลราชธานีครั้งนี้ของพรรค พท. จะนำนโยบายไปนำเสนอ โดยเฉพาะนโยบายด้านการคมนาคม รถไฟความเร็วสูง ก็จะถูกนำเสนอด้วย

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 18 ก.พ. จะเปิดเวทีปราศรัยแรก ที่ รร.อำนาจเจริญ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ในเวลา 10.00 น. ไปต่อที่รร.เสลภูมิพิทยาคม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ในเวลา 14.00 น. ก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่บึงพลาญชัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ในเวลา 17.00 น. โดยที่ จ.ร้อยเอ็ด เคยมีความทรงจำร่วมกันกับพรรคไทยรักไทย (ทรท.) เนื่องจากนายทักษิณ เคยได้จัดโมเดลแก้จน ที่ อ.อาจสามารถ เรียกว่า “อาจสามารถโมเดล” วางแผนยกระดับคุณภาพชีวิต ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส น่าเสียดายที่หลังลงพื้นที่เกิดความขัดแย้งทางการเมือง นำไปสู่การรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นในการทำงาน แก้ปัญหาความยากจน ยังเป็นเป้าหมายหลักของพรรค พท. จนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะนำเสนอบนเวทีนี้ด้วย

ต่อมาวันที่ 19 ก.พ. จะเริ่มเวทีแรกที่ลานโดม สนามกีฬาประจำ จ.กาฬสินธุ์ ในเวลา 10.30 น. จากนั้นจะต่อเนื่องไป จ.ขอนแก่น ตั้งเวทีที่ตลาดนัดคลองถม อ.บ้านไผ่ ในเวลา 15.30 น. จากบ้านไผ่ต่อเนื่องไปตลาดอู้ฟู่ อ.เมืองขอนแก่น ในเวลา 17.00 น. โดย จ.ขอนแก่น เป็นจังหวัดที่นายทักษิณ ได้ประกาศนโยบายการเกษตรเป็นครั้งแรก ครั้งนี้พรรค พท. จะใช้ที่นี่นำเสนอนโยบายด้านการเกษตรให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศเช่นกัน

“ยืนยันนโยบายที่นำเสนอจะสามารถ ทำให้เห็นผลเกิดขึ้นได้จริง หากเพื่อไทยแลนด์สไลด์ และขอย้ำว่า นโยบายที่จะแก้ปัญหาไม่ได้มีเท่านี้ หลังการยุบสภา จะประกาศนโยบายชุดสำคัญทันที เพื่อให้เป้าหมายแลนด์สไลด์ เปลี่ยนฝ่ายบริหารมาเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนสำเร็จได้อย่างแน่นอน เชื่อว่าเป็นความหวังร่วมกันของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ”

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่มี ส.ว. มีการท้าทายพรรคถ้าได้รับเลือกตั้งแลนด์สไลด์เกินครึ่ง จะไม่โหวต น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ขอให้พี่น้องประชาชนได้พิจารณา ซึ่งเรื่องนี้กรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค พท. ยังไม่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ อย่างเป็นทางการ แม้เป็นที่ทราบโดยนัยว่า อาจมีชื่อ น.ส.แพทองธาร อยู่ด้วย หากพรรค พท. เสนอชื่อใคร ย่อมต้องผ่านเงื่อนไข 3 ข้อ คือ คุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย มีความรู้ความสามารถที่ทุกคนและกรรมการบริหารพรรคยอมรับ รวมถึงต้องได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน

หากผ่านเงื่อนไขนี้ ขอให้ ส.ว. ที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ตั้งสติ ใช้วิจารญาณดีๆ นี่ไม่ใช่เวลาเอาหน้ากับผู้มีอำนาจแต่งตั้งท่านมา ไม่ใช่เวลาอ้างสิทธิที่ท่านไม่พึงมีแต่ต้น คือการโหวตนายกรัฐมนตรี มาสร้างแรงเสียดทานนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามครรลอง ยอมรับฉันทามติจากประชาชน การเลือกตั้งจะนำไปสู่ทางที่ดีกว่าได้แน่นอน เราจะรอพิสูจน์ เมื่อถึงเวลานั้นที่ประชาชนคือเจ้าของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง.