จากกรณี เฮียเอ (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี มหาเศรษฐี เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ถูกลูกชาย-สะใภ้ พร้อมพวก กักขังกรอกยาสลบหมูนานกว่า 2 ปี จัดฉากให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ก่อนยื่นศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกแทนแม่ โอนถ่ายทรัพย์สินกว่า 65 ล้านบาท เมียผูกคอดับคาห้องหลังถูกจับแยกห้อง เชื่อโดนจัดฉากฆาตกรรม ต่อมาพ่อมหาเศรษฐีแฉต่อ พ่อตาแม่ยายลูกชายร่วมแก๊งกรอกยาพิษ ฮุบสมบัติด้วย ให้อภัยลูกหากยอมกลับมาร่วมมือกัน แต่ไม่ให้อภัยฝั่งลูกสะใภ้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสได้พูดคุยสอบถามกับนายออด ช่างทำบ้าน ที่เฮียเอจ้างมาทำหลังคาและตกแต่งบ้าน ซึ่งเป็นบ้านหลังแรก อยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ลักษณะเป็นตึกแถว 3 คูหาสร้างติดกัน ขวาสุดจะเป็นของเฮียเอ ล็อกกลางเป็นของน้องสาว และซ้ายสุดคือของน้องชาย โดยช่างออดถูกจ้างมาทำหลังคาดาดฟ้าและตกแต่งคิ้วบัวรอบบ้านตอนปี 2563

พ่อมหาเศรษฐีลั่นเดินหน้าเอาผิดฝั่งสะใภ้ให้ถึงที่สุด ให้อภัยลูกชายหากยอมมาร่วมมือกัน

ช่างออด เล่าว่า ตอนนั้นลูกชายพาลูกสะใภ้เข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว ซึ่งเวลานั้น ทั้งตัวเฮียเอและเมียยังอาการปกติ พูดคุยรู้เรื่อง ทำอะไรคล่องแคล่ว เดินยกน้ำจากชั้น 1 ขึ้นมาชั้นดาดฟ้าให้กับช่างได้สบายๆ ซึ่งช่างทำบ้านเฮียเออยู่นานประมาณ 2 เดือน แต่อยู่มาวันหนึ่ง เมียเฮียเอ เริ่มมีอาการแปลกๆ ไป จากที่พูดคุยได้ กลายเป็นคนเบลอๆ ลิ้นแข็ง พูดไม่รู้เรื่อง และเดินไม่ได้ ลูกชายต้องเป็นคนพยุงมาจ่ายค่าแรงให้กับช่าง

หลังจากนั้นไม่กี่วัน เฮียเอก็มีอาการคล้ายกัน กลายเป็นคนเบลอๆ เอ๋อๆ ใส่กางเกงในตัวเดียวออกมาจากบ้าน ซึ่งช่างออดรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่กล้าถามกับลูกชาย กลัวเป็นการละลาบละล้วง จากนั้นไม่นาน ลูกชายก็สั่งให้หยุดทำบ้าน โดยที่หลังคาก็ยังทำไม่เสร็จ ก่อนที่ลูกชายและลูกสะใภ้จะพาเฮียเอกับเมียไปอยู่ที่อื่น จากนั้นก็ไม่ได้เจอกับเฮียเออีกเลย จนกระทั่งมาทราบเป็นข่าวโด่งดังเมื่อไม่กี่วันมานี้ ตัวเองมั่นใจเลยว่า เฮียเอและเมียต้องถูกวางยาแน่นอน

สำหรับบ้านหลังแรกของเฮียเอจุดนี้ คนดูแลร้านของน้องชายเฮียเอ บอกว่า ตั้งแต่เฮียเอและเมียล้มป่วยตอนช่วงปี 2563 บ้านก็ถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง ส่วนของน้องสาวและน้องชาย เปิดเป็นร้านขายวัสดุการเกษตร ก็ไม่ค่อยได้เจอเฮียเอและเมีย ขนาดตอนงานศพเมียเฮียเอ ตัวเองยังไม่ทราบและไม่ได้ไปร่วมงานด้วย ซึ่งหากย้อนไปช่วงที่เฮียเอและเมียล้มป่วย เริ่มจากที่เมียเฮียเอมีอาการท้องเสียทั้งวันจนไม่มีแรง จากนั้นอีกไม่กี่วัน เฮียเอก็ล้มป่วยด้วยอาการลักษณะเดียวกัน

ด้าน พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจได้เรียกสอบพยานไปแล้วกว่า 6 ราย ขณะที่ลูกชายและสะใภ้ของเฮียเอ ได้อยู่ในประเทศแล้วทั้งสองคน แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเบื้องต้นต้องรอผลตรวจร่างกายเฮียเอจากแพทย์ และกำลังเตรียมออกหมายเรียกบุคคลทั้งสองมาเพื่อทำการสอบสวนข้อเท็จจริง หากไม่มาตามหมายเรียก ก็ต้องดำเนินการออกหมายจับต่อไป.