วันนี้ “ทีมข่าวการเมืองเดลินิวส์” ถือโอกาสพูดคุยกับ “อิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ถึงเส้นทางการเมืองและเกมเลือกตั้งที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น

อิ๊ง แพทองธาร” เปิดฉากถึงตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า ถ้าพูดในภาพเล็กๆ ก็หมายถึง “คุณพ่อ” ในแง่ของภาพเล็กๆ แต่หัวหน้าครอบครัว คือ ที่พึ่งทางใจ เปรียบเสมือนศูนย์รวม ถ้าใครคิดเห็นแบบเรา สนับสนุนเราก็มาอยู่ด้วยกัน อันนี้มากกว่าที่คนในพรรคมอง “อิ๊ง” แน่นอนว่าพรรคไทยรักไทย เกิดจาก “คุณพ่อ” นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรค แล้วมาพรรคพลังประชาชน จนถึงวันนี้ก็มีหลายคนเคยทำงานอยู่ในรัฐบาลตอนที่ “คุณพ่อ” และ “คุณอา” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

“ซึ่งพอมาตรงนี้ “อิ๊ง” รู้สึกว่ามันก็ห้ามไม่ได้ว่า เราเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข แต่เรามีหัวใจที่รู้สึกว่า เข้ามาตรงนี้สามารถรวบรวมคนได้ มีใจให้เราสู้ เพื่อให้คนมาอยู่ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว”

@จากความสัมพันธ์พ่อ-ลูกในตระกูลชินวัตร จนมีคำถามว่าเพื่อไทยหรือเพื่อใคร?

เพื่อไทยสิคะ ที่ “อิ๊ง” เข้ามาตั้งใจอยู่พรรคเพื่อไทย เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ที่สร้างขึ้น เราเน้นทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น กินดีอยู่ดีขึ้น เพราะคนไทยลำบากมาทศวรรษหนึ่งแล้ว เราเห็นข่าวกอดคอกันตาย ฆ่าตัวตายไม่เว้นแต่ละวัน ยาบ้าทั่วเมืองราคา 7 เม็ดร้อยซึ่งถูกมาก สมัยที่เราเป็นรัฐบาลไม่เป็นแบบนี้ แล้วถ้าเราทำมันได้อีกครั้ง ช่วยผลักดันพรรคได้อีกครั้ง นั่นแหละคือสิ่งที่ “อิ๊ง” อยากจะทำ ถ้าถามว่าเพื่อใคร ก็เพื่อประชาชน

@กังวลปาฏิหาริย์ทางการเมืองที่พรรคเพื่อไทยเคยเจอในอดีตหรือไม่ ทั้งการรัฐประหารหรือยุบพรรค

ทำไมถึงมาถาม “อิ๊ง” เราไม่ใช่คนทำรัฐประหารแต่เราเป็นเหยื่อ ต้องถามคนรัฐประหารมากกว่าว่าจะทำอีกไหม ประเทศบอบช้ำมาขนาดนี้ เวลาที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้ประชาชนเห็นจริงๆ ว่ารัฐประหารไม่ได้ช่วยให้ประเทศดีขึ้น ประเทศที่เคยยืนแนวหน้าแข่งขันกับเขาได้ มันถอยออกหมดแล้ว มันกลายเป็นความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นมากมายในประเทศ ถ้าถามว่ากลัวจะเกิดขึ้นอีกไหม “อิ๊ง” ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เพราะมันไม่ควรที่จะเกิดขึ้น

@ถ้าเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์แล้วมีความจำเป็นต้องจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคร่วมรัฐบาล จะตอบคำถามประชาชนอย่างไร

เพื่อไทยหาเสียงหวังแลนด์สไลด์จัดตั้งรัฐบาลด้วยพรรคการเมืองเดียว เพื่อปิดสวิตซ์ ส.ว. แล้วผลักดันนโยบายทุกอันที่บอกกับประชาชนให้เป็นจริงได้ สมมุติว่าไม่แลนด์สไลด์ตอนนี้ก็ยังไม่แพลนจับมือกับใครเลย เพราะไม่อยากให้ประชาชนสับสน ถ้าต้องจับมือกับใครต้องพิจารณาเชิงลึกว่า พรรคเหล่านั้นสนับสนุนประชาธิปไตยหรือไม่ พรรคนั้นมีนโยบายหรือแนวคิดแบบเดียวกันหรือไม่ ดังนั้นต้องพูดคุยกันหลังเลือกตั้งอีกที

@มองอย่างไรกับวิวาทะที่ว่า “พวกแก้มาตรา 112 เป็นพวกล้มเจ้า”

มาตรา 112 นั้น ในสิ่งต้องแก้กันสำหรับ “อิ๊ง”นั้นคือไม่ล้มเจ้าขอชัดเจนตรงนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยมีคดีที่ถูกฟ้องเยอะขนาดนี้มาก่อน ซึ่ง 8 ปีที่ผ่านมาคดีเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ถามว่าปัญหาคืออะไร ตอนนี้มันไม่กำหนดใครฟ้องก็ได้ จะเป็นใครก็ได้ จนถูกนำเอากฎหมายฉบับนี้มาเล่นป้ายสีทางการเมือง เป็นเครื่องมือทางการเมือง

“มันควรจะกำหนดให้ชัดเจนว่าใครฟ้องได้ โทษอยู่ที่เท่าไรอย่างไร ใครเป็นผู้ถูกฟ้อง มันอยู่ที่รายละเอียด อย่าให้ “อิ๊ง” พูดตอนนี้ ไปพูดไปถกกันในสภาฯอย่างละเอียดและชัดเจน นี่คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น”

@มองอย่างไรที่ ส.ว. ออกมารับน้องโดยวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น “นายกฯหน่อมแน้ม”

การพูดถึงอายุเป็นอะไรที่เชยมาก ไม่ว่าจะเป็นอายุน้อยหรือหน่อมแน้ม อย่าเพิ่งตื่นเต้น ตอนนี้ “อิ๊ง” ยังไม่เป็นนายกฯเลยนะ และยังไม่มีการเลือกตั้ง “อิ๊ง” เจอคนเก่งๆ มากมายที่อายุน้อยกว่า “อิ๊ง” เยอะ ตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง ที่บ้านไม่ได้มีทุนสนับสนุนมากมาย แล้วไปเป็นเจ้าของโน้นเจ้าของนี่ เก่งกว่า “อิ๊ง” ในวันนี้อีก ทำให้รู้สึกว่า เราจะไม่คอมเมนต์ใจแคบแบบนั้น เราจะไม่พูดว่าอายุน้อยทำไม่ได้ ถ้า “อิ๊ง” พูดว่าอายุมากไปทำไม่ได้อย่างนี้ได้หรือ มันก็ไม่ใช่ อายุมากมีข้อดี อายุน้อยก็มีข้อดีเหมือนกัน แน่นอนว่าการจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องเป็น “อิ๊ง” ในอายุ 36 ปีเท่านั้น ใครก็ตามก็ไม่สามารถทำคนเดียวได้ บริษัทใหญ่โตทำคนเดียวก็ไม่ได้ ยิ่งบริษัทประเทศไทยทำคนเดียวเป็นไปไม่ได้

“ทุกวันนี้คิดเลยว่าถ้า อิ๊งไม่ได้อยู่ในพรรคเพื่อไทย อิ๊งก็ไม่อยากทำ อิ๊งมั่นใจในพรรค มั่นใจในนโยบายของพรรค มั่นใจในศักยภาพของพรรค คนที่อยู่ในพรรคที่เคยทำมาแล้ว คนใหม่ๆ ที่เข้ามาแล้วมีแพสชันมากมาย อิ๊งเชื่อแบบนี้ ไม่เป็นไรมันเป็นความคิดเห็นส่วนตัว แต่ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัว อิ๊งว่ามันเป็นคอมเมนต์ที่ใจแคบ อย่าพูดเลยมันเชยไปแล้ว”

@จะฝ่ากระแสนี้อย่างไร เพราะ 250 ส.ว. เป็นกลุ่มคนที่มีสิทธิโหวตเลือกนายกฯ

แลนด์สไลด์เพื่อปิดสวิตซ์ ส.ว. ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคอมเมนต์นี้ เป็นคอมเมนต์ที่ไม่ให้เกียรติประชาชน เป็นคอมเมนต์ที่มีแผนการอยู่เบื้องหลัง เราเป็นประชาธิปไตย หนึ่งเสียงของประชาชนมันมีความหมายจริงๆ แต่คอมเมนมต์นี้แปลว่าหนึ่งเสียงของท่านไม่มีความหมายอะไรเลย

@ส่วนภารกิจพาพ่อกลับบ้าน

ให้มันเป็นเรื่องของคุณพ่อ หรือคนในครอบครัวที่จะคุยกันเอง มันไม่ต้องเกี่ยวกับพรรคการเมือง มันไม่ต้องเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ มากมาย คุณพ่อออกไปเกือบ 20 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งออกเมื่อวาน เพราะฉะนั้นเราได้คิดเรื่องนี้กันมาอย่างเยอะแยะ การที่ “อิ๊ง” เข้ามาทางการเมือง ขอให้มองว่ามาทำให้ประเทศมันดีขึ้นทางใดทางหนึ่ง ซึ่งพลังของ “อิ๊ง” มีแค่ไหนขอแค่นั้น ขอสุดความสามารถพลังของ “อิ๊ค์”

“การพาพ่อกลับบ้าน อิ๊งค์เชื่อว่าคุณพ่อจะจัดการตัวเอง คุณพ่อจะมีทางของท่านเองที่น่าจะเป็นผลดีแก่ท่านที่สุด”