เมื่อวันที่ 23 ก.พ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง และมาตรการ การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน เรื่อง การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ แบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาข้อมูลอุทยานแห่งชาติทับลานที่ว่า รัฐบาลปัจจุบันมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาการทับซ้อนกันของที่ดินรัฐ โดยการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินรัฐใหม่ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) และมอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ดำเนินการโดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ ที่มีรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ท. กรมแผนที่ทหาร และหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ดินรัฐทุกหน่วยงาน แบ่งออกเป็น 7 กลุ่มจังหวัด

ในการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐกลุ่มที่ 3 ได้พบกับปัญหาที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการทับซ้อนกันของที่ดินรัฐตามแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี ที่เป็นปัญหามาตั้งแต่ในอดีต สาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐที่ไม่ชัดเจน โดยสามารถจำแนกปัญหาการทับซ้อน ได้ดังนี้

1.เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกับอุทยานแห่งชาติทับลาน 2. ที่ดินทำกินของราษฎรที่อยู่อาศัยมาแต่เดิมบริเวณบ้านไทยสามัคคีกับอุทยานแห่งชาติทับลาน 3. โครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อความมั่นคงในพื้นที่ (โครงการ พมพ.) และ 4.โครงการจัดที่ดินทำกินให้กับราษฎรผู้ยากไร้ในพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรม (โครงการ คจก.) กับอุทยานแห่งชาติทับลาน

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้พยายามร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยการสำรวจและปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานให้ตรงตามสภาพความเป็นจริงของพื้นที่เมื่อปี พ.ศ. 2543 มีการออกปฏิบัติงานสำรวจรังวัดแนวเขตอุทยาน การรังวัดหาค่าพิกัด GPS และมีการฝังหลักแนวเขตไว้ชัดเจน ผลการดำเนินงานสรุปได้ว่ามีพื้นที่ต้องกันออกจากแนวเขตอุทยาน ประมาณ270,000 ไร่ และมีพื้นที่ที่มีสภาพป่าไม้ที่ต้องผนวกกลับมาเป็นอุทยาน ประมาณ 110,000 ไร่ (รวมพื้นที่ปรับลดประมาณ 160,000 ไร่) แต่ไม่ได้ดำเนินการตราออกเป็นกฎหมายเพื่อปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ในส่วนที่มีการทับซ้อนแต่อย่างใด เนื่องจากผลการปรับปรุงแนวเขตยังไม่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ รวมถึงในช่วงเวลานั้น มีการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการในปี 2545

การดำเนินคดีกับผู้บุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลาน มีจำนวนทั้งสิ้น 552 คดี เนื้อที่ประมาณ 12,527 ไร่ คณะอนุกรรมการนโยบายฯ ได้เน้นย้ำว่า ไม่มีการละเว้นกับผู้กระทำความผิดหรือนายทุนที่เข้าไปครอบครองที่ดินรัฐ รวมถึงผู้ประกอบการรีสอร์ทที่อยู่ในเขตอุทยาน ซึ่งการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดจะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

การดำเนินนโยบายการแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนตามนโยบายรัฐบาลจะไม่มีผลต่อรูปคดีความต่างๆ ที่อยู่ในระหว่างกระบวนการยุติธรรมหรือการพิจารณาของศาลแต่อย่างใด โดยขอให้นำเสนอต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินพิจารณาให้ความเห็นประกอบ เพื่อให้เกิดความรอบคอบต่อไป

ในระหว่างปี 2554-2561 ผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนจากราษฎรในพื้นที่ และได้พิจารณาสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2564 ได้รับทราบวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน (กรณีปัญหาการถือครองที่ดินของราษฎรบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน) โดยให้ดำเนินการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานเพื่อแก้ไขปัญหาการทับซ้อนของพื้นที่ให้แล้วเสร็จก่อน โดยใช้แนวเขตที่ได้มีการสำรวจรังวัดร่วมกันของทุกภาคส่วนซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อปี 2543 และตรงกับสภาพความเป็นจริงของพื้นที่

นโยบายรัฐบาลปัจจุบัน การบริหารจัดที่ดินและทรัพยากรดินตามแนวทาง คทช. กำหนดให้กระจายการถือครองที่ดินให้กับผู้ยากไร้หรือเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ไม่มีการออกเอกสารสิทธิในที่ดินรัฐ ไม่มีการเอื้อประโยชน์ต่อนายทุนที่บุกรุกหรือซื้อขายที่ดินรัฐ รวมทั้ง บริหารจัดการที่ดินรัฐตามศักยภาพการใช้ประโยชน์ของที่ดินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน เป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นธรรม ซึ่งภายหลังจากการแก้ไขปัญหาการทับซ้อนของที่ดินแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน จะมีประชาชนที่ได้รับประโยชน์มากกว่า 20,000 ครัวเรือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง และมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน ได้พิจารณาการแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานตามแนวทางการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนจากการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2565 ร่วมกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2564 ตามความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดิน สรุปมติดังนี้

1.เห็นชอบแนวทางการใช้เส้นปรับปรุงการสำรวจแนวเขต ปี พ.ศ. 2543 ในการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี

2.เห็นชอบการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยไม่เกี่ยวข้องหรือมีผลต่อรูปคดีความต่างๆ ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมและการพิจารณาของศาลแต่อย่างใด และกำหนดแนวทางการคุ้มครองการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ที่ได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย

3.เห็นชอบการดำเนินงานในพื้นที่ ที่กันออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ ให้ส่งมอบพื้นที่ให้ ส.ป.ก. ดำเนินการจัดที่ดินให้กับประชาชนตามแนวทาง คทช. สำหรับพื้นที่ที่มีสภาพป่าที่ผนวกกลับ ประมาณ 110,000 ไร่ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป

4.หลังจากที่ ครม. ได้ให้ความเห็นชอบ ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ ส.ป.ก. ดำเนินการยืนยันหลักหมุดแนวเขต พ.ศ. 2543 ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ในการดำเนินงานต่อไป จะต้องนำเรื่องเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินพิจารณาก่อนเสนอ คทช. และ ครม. ต่อไป.