หลังสมาชิกผู้ใช้ TikTok @roritarkratair โพสต์คลิปนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนนับร้อยคน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตก ใส่ชุดว่ายน้ำมาทำกิจกรรมล่องห่วงยางในแม่น้ำปาย เริ่มตั้งแต่ท่าน้ำของโรงแรม มีพนักงานคอยดูแลความปลอดภัย ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จนถึงจุดที่กำหนด ความลึกของลำน้ำประมาณเอว บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ท่ามกลางความงามของภูเขาและธรรมชาติในเมืองปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งกลายเป็นคลิปไวรัล สร้างความตื่นเต้นและความประทับใจต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามซีกโลกมา แล้วมีความสุขกับเมืองไทย

ที่นี่เมืองไทย! ต่างชาติบินลัดฟ้าแห่มาเล่นห่วงยาง บอกเลยแทบมองไม่เห็นน้ำ

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ว่าที่ร้อยตรี ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการให้บริการห่วงยางให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 5 ราย โดยมีการให้บริการให้กับนักท่องเที่ยว ในราคารายละ 200-400 บาท แล้วแต่แพ็กเกจที่เสริมเข้าไป ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะต้องมีการจัดการ์ดให้การดูแลนักท่องเที่ยว จำนวน 1 คน ต่อนักท่องเที่ยว 10 คน ซึ่งในแต่ละรอบของการล่องห่วงยาง แต่ละรายจะให้บริการนักท่องเที่ยวคราวละประมาณ 100 คนต่อเที่ยว ซึ่งเมื่อมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าไปใช้บริการ เมื่อรวมกันจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเยอะมากหลายร้อยคนต่อรอบ ทำให้มีการถ่ายคลิปไปเผยแพร่ในสื่อโซเชียลจนโด่งดัง

ว่าที่ร้อยตรี ภาณุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันได้มีผู้ประกอบการไปลงทะเบียนกับสถานีตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน 5 ราย โดยผู้ประกอบการต้องควบคุมไม่ให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างการล่องห่วงยางน้ำปาย และเนื่องจากที่ผ่านมา กิจกรรมล่องห่วงยางแม่น้ำปายได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทาง ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอนในฐานะหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยว และผู้ประสานงานจึงได้จัดประชุมระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนตลอดจนภาคประชาชน ในรูปแบบสร้างการมีส่วนร่วมบริหารจัดการการท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและสมดุลของมิติทางเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าให้แก่นักท่องเที่ยว สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจและกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนต่างๆ อย่างเป็นธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว รวมทั้งให้สังคมยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและมีความสุขร่วมกัน ตลอดจนเน้นการดูแลรักษา ฟื้นฟูทรัพยากรทางธรรมชาติ ให้คงอยู่สืบไป

ผอ.ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวต่อว่า สำหรับในช่วงฤดูร้อน ได้มีการหารือกับผู้ประกอบการ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวปาย ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐ-ภาคเอกชน ในการเตรียมปรับแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีตาม Theme 365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย โดย ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน ร่วมกับภาคีเครือข่ายตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดจัดแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน ภายใต้ “โครงการแม่ฮ่องสอน ผ่อนคลาย” ซึ่งนำจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมาเป็นจุดขาย ผนวกกับ Food (อาหารท้องถิ่น) และ Festival (กิจกรรม เทศกาล งานประเพณี) ดึงจุดแข็งให้เป็นจุดขายประกอบด้วย การท่องเที่ยวในเชิงอาหาร ซึ่งมีความหลากหลายของอาหารท้องถิ่นและชาติพันธุ์ รวมทั้งอาหารจากนานาชาติที่แทบจะมีครบใน อ.ปาย รวมทั้งสถานประกอบการด้านสุขภาพและความงาม เช่น สปาประกอบกับการนำจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ในเชิงวัฒนธรรม, งานประเพณีปีใหม่ของชาติพันธุ์ที่นิยมจัดขึ้นในช่วงเดือน ก.พ.- มี.ค. รวมทั้งงานประเพณีปอยส่างลอง หนึ่งเดียวในโลก

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่สนับสนุน ได้แก่ งานประเพณีแห่และสรงน้ำพระของอำเภอปาย ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 13 เม.ย. 66 นี้ และยังมีกิจกรรมที่สร้างขึ้นใหม่ เช่น งานวันไหลสงกรานต์ที่จะจัดขึ้นครั้งแรกในอำเภอปาย วันที่ 20-21 เม.ย. 66 โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น กิจกรรมล่องห่วงยางแม่น้ำปายกิจกรรมจัดโซนนิ่งถนนคนเล่นน้ำ อุโมงค์น้ำการจำหน่ายอาหารพื้นเมืองสินค้าของที่ระลึกพื้นเมือง เชื่อมโยงกับกิจกรรมถนนคนเดิน ซึ่งจะทำให้สามารถดึงให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว และมีระยะเวลาพำนักในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น สร้างโอกาสในการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวและกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนต่างๆ ลดความเหลื่อมล้ำ และลดปัญหาการว่างงานหรือย้ายถิ่นฐานไปทำงานในเมืองหลักตามนโยบายของรัฐบาล โดยกำหนดพื้นที่อำเภอปายเป็น Hub ของการท่องเที่ยว และกระจายตัวไปตามพื้นที่ต่างๆ เนื่องจากความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว ทั้ง น้ำตก น้ำพุร้อน บ่อน้ำแร่ จุดชมวิวและมีกิจกรรมมากมาย ซึ่งจะตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่ม Digitalnomad และกลุ่มทำงานแบบ Workation หรือกลุ่มทำงานแบบ Hybrid เข้ามาท่องเที่ยวพร้อมทำงานอยู่ในพื้นที่ อ.ปาย มากขึ้น และมีระยะการพำนักยาวนานมากขึ้น.