เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ภ.จว.ภูเก็ต ได้รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงบนลานจอดรถของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จ.ภูเก็ต จึงประสานไปยัง พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.สราวุธ โชติสุวรรณ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.กรกฤช ขันเครือ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ต.สมพร รังสิมันต์รัตน์ สวป.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีบรอนซ์ ทะเบียน ขก 3809 ภูเก็ต จอดอยู่ในช่องจอดรถ ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ล็อกล้อไว้ด้วยโซ่ และสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธปืนเอาไว้ได้ ทราบชื่อ คือ นายธนกร (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ตรวจค้นพบอาวุธปืนสั้น CZ 2075 RAMl เครื่องกระสุนปืน จำนวน 13 นัด ถูกยิงไปแล้ว 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมนายธนกร มาสอบปากคำที่ สภ.เมืองภูเก็ต

ด้านผู้เสียหาย เล่าว่า คนก่อเหตุได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวผ่านช่องที่จอดรถพ้นไปแล้ว ก่อนพยายามจะขับรถถอยกลับมา ตนซึ่งขับตามอยู่ด้านหลังเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เลยบีบแตรไป 1 ครั้งสั้น ๆ และได้บีบแตรยาวอีกครั้ง เพราะตนถอยหลังไม่ได้ เนื่องจากมีรถตามติดอยู่ด้านหลังอีกประมาณ 2 คัน

“จากนั้นชายดังกล่าวก็เปิดกระจกลงบอกกูรู้แล้ว กูมีกล้อง พร้อมกับตะโกนมาต่อว่าตน จึงมีปากเสียงกัน หลังจากนั้นตนก็ขับเลยไปข้างหน้าเพื่อไปหาจอดที่อื่น ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงคาดว่าน่าจะเป็นผู้ขับรถกระบะยิงตามหลังมา จึงรีบโทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ” ผู้เสียหาย กล่าว

ขณะที่ญาติของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า หลังจากหลานยิงไปแล้ว ตนก็บอกหลานว่างานเข้าแน่เพราะเป็นสถานที่ราชการ เรื่องใหญ่กว่าสี่แยกไฟแดง โดยส่วนตัวหลานเป็นคนชอบยิงปืน ชอบไปซ้อมยิงปืนที่สนามปืนภูเก็ตเป็นประจำ ปกติเขาไม่ได้เป็นคนใจร้อน ตั้งแต่พ่อของหลานเสีย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด ตนก็ได้แต่ประคับประคองสภาพจิตใจมาโดยตลอด ต้องพาหลานมาพบหมอ เพราะหลานเป็นโรคซึมเศร้า ถ้าเขาไม่ด่ามาก่อน หลานก็คงไม่ยิง

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายธนกร ว่า “พยายามฆ่าผู้อื่น, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.