เมื่อวันที่ 8 มี.ค. พ.ต.ท.สุพจน์ คงนาลึก นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 8 (ป.ป.ท.เขต 8) พร้อมด้วย น.ส.ศุภาลักษณ์ จิรักษา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดพังงา (ป.ป.ช.พังงา) นำเจ้าหน้าที่ลงตรวจพื้นที่โครงการปรับภูมิทัศน์คลองพังงา ที่สร้างในปี 2564-2565 บริเวณด้านหน้าศูนย์ราชการจังหวัดพังงา ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา หลังเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้โพสต์ข้อความและภาพว่า ภายในโครงการมูลค่ารวม 30,000,000 ล้านบาท มีการจัดซื้อจัดจ้างที่ราคาสูงกว่าปกติ และไม่ครบถ้วนตามสัญญา และไม่มีการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็น ต้นทองอุไร ราคาต้นละ 6,090.50 บาท ต้นรวงผึ้งราคาต้นละ 20,098.65 บาท น้ำพุพร้อมอุปกรณ์ 1 ชุด ราคา 6,000,560 บาท ปลูกหญ้า 587,350.92 บาท

จาก ‘ทองอุไร’ ลามโผล่ ‘รวงผึ้ง’ ต้นละ 2 หมื่น ปลูกหญ้า 5.8 แสน น้ำพุ 6 ล้าน

โดยมี น.ส.วิชัญญา บำรุงชล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพังงา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่นำชี้แจง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้นทองอุไรมีราคาต้นละ 6,059.50 บาท นั้น เนื่องจากมีขนาดลำต้นไม่ต่ำกว่า 3 นิ้ว ประกันความเสียหาย 2 ปี ส่วนต้นรวงผึ้งราคาต้นละ 20,098.65 บาท มีขนาดลำต้นไม่ต่ำกว่า 4 นิ้ว ประกันความเสียหาย 2 ปี ซึ่งทางสำนักงานโยธาฯ ได้แจ้งหนังสือให้ผู้รับเหมาเข้ามาปรับปรุงซ่อมแซม ปลูกต้นไม้ทดแทนต้นไม้ที่ตายแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในส่วนของน้ำพุนั้น เป็นน้ำพุแสงสีเสียง ยังใช้งานได้ปกติ แต่ขณะนี้ระดับน้ำในบึงน้ำไม่เพียงพอ และไม่สามารถดึงน้ำจากคลองพังงามาใช้ได้เนื่องจากเป็นน้ำกร่อย ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ และล่าสุดพบว่ามีการดึงน้ำประปาเติมเข้าไปในบึงน้ำ เพื่อจะได้เปิดใช้งานแล้ว

น.ส.ศุภาลักษณ์ จิรักษา ผอ.ป.ป.ช.พังงา กล่าวว่า ทาง ป.ป.ช.พังงา ได้ประสานทางหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งโครงการ สัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ตลอดถึงเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้เอกสารมาก็จะดูว่าราคาสูงจริงไหม ในส่วนการดำเนินการหลังที่มีการรับมอบงานแล้ว และมีการเบิกจ่ายไปแล้ว หน่วยงานเจ้าของโครงการจะต้องไปดำเนินการให้ผู้รับจ้างมาดำเนินการในส่วนที่เขามีประกันสัญญาอะไรบ้าง การรับเรื่องของ ป.ป.ช. นั้น มีการร้องแบบมีตัวตนหรือทำหนังสือหรือทางไปรษณีย์หรือร้องทางโทรศัพท์หรือร้องตามเพจ ป.ป.ช. แต่เรื่องนี้เป็นปรากฏตามสื่อออนไลน์ ก็จะมีขั้นตอนในการดำเนินการด้วยการให้เจ้าหน้าที่ป้องกันลงมาดู แล้วถ้ามีเหตุส่อไปในทางทุจริตหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จะขอเอกสารแล้วไปตรวจสอบอีกที จากนั้นก็เสนอเพื่อที่จะรับเรื่องไว้ตรวจสอบต่อไป

พ.ต.ท.สุพจน์ คงนาลึก เปิดเผยว่า ป.ป.ท.เขต 8 ได้ลงพื้นที่มาหาข้อเท็จจริงจากพื้นที่จริง โดยจะรวบรวมเป็นเอกสารหลักฐานที่มาของโครงการขั้นตอนการดำเนินงานว่าสถานะปัจจุบันมันถึงขั้นตอนไหน การทุจริตนั้นมี 2 ส่วนที่เรารู้กัน คือ การเรียกรับผลประโยชน์และการไม่ปฏิบัติตามกฎตามระเบียบตามกติกา ก็ต้องไปตรวจสอบแต่ว่าที่คุณไม่ปฏิบัตินั้นเพราะเหตุอะไร บางเรื่องมันอาจมีข้อยกเว้น บางเรื่องมันทำไม่ได้เราก็ต้องไปดูเอกสารอีกครั้งหนึ่ง เพราะการกระทำบางอย่างมันอาจจะไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ แต่นั่นไม่ใช่หมายความว่าเป็นการจะเป็นทุจริตเสมอไป เราก็ต้องนำข้อเท็จจริงที่เห็นนี้ ไปประกอบกับเอกสารมาประกอบการพิจารณา เพราะฉะนั้นเราก็มีหน้าที่ตรวจสอบ เราก็มาตรวจสอบ ส่วนข้อเท็จจริงมันยังไง เราต้องฟังความทั้ง 2 ด้าน มาประกอบ แล้วก็จะชี้แจงกับสื่อมวลชนต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ทาง ป.ป.ช. มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงอยู่แล้ว.