เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ชมรมทนายความจิตอาสา อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายยุฒธิพงษ์ อายุ 64 ปี หรือ ลุงกอบ พนักงานย้อมผ้าโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ และเป็นเครือญาตินักมวยชื่อดัง นำหลักฐานเข้าพบ นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกนางสาวแหม่ม อายุ 46 ปี ที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊กนาน 3 ปี หลอกจะดูแลกันหลังจากลุงเกษียณจากการทำงานแล้วจะมาเป็นแม่บ้านให้ ก่อนจะหลอกให้โอนเงินและดาวน์รถ จยย. สูญเงินหลายแสนบาท

นายยุฒธิพงษ์ กล่าวว่า เพื่อนที่ทำงานตนบอกว่ามีผู้หญิงชื่อ น.ส.แหม่ม หน้าตาสวย โพสต์รูปอยู่ในเฟซบุ๊ก พอตนเห็นรู้สึกชอบเลยทักเข้าไปคุย 2 เดือนแรกแหม่มมายืมเงินไปลงทุนเปิดร้านขายน้ำ ตนให้ยืมไป 4,000 บาท ครั้งที่ 2 ขอยืมเงินไปทำสวนปลูกผัก 15,000 บาท ครั้งที่ 3 มาขอยืมเงินไปทำสวนฝรั่ง 30,000 บาท ตนไม่เอะใจอะไรรีบโอนเงินไปให้ ต่อมาตนถูกค่าบัตรเครดิตแต่ตนไม่มีเวลาไปจ่ายเพราะต้องทำงานทุกวัน ตนจึงโอนเงินให้แหม่มไปจ่ายค่าบัตรเครดิต 40,000 บาท และมารู้ทีหลังว่าแหม่มไม่ได้ไปจ่าย พอตนถามเรื่องเงิน แหม่มก็ไม่พอใจ

“ต่อมาแหม่มนัดให้ตนไปเจอที่ร้านขายรถ จยย. พอตนเห็นแหม่มตัวจริงตกใจมาก ภาพไม่ตรงปก ตัวจริงทั้งอ้วนทั้งดำ เขาก็ตีเนียนให้ตนไปดาวน์รถ จยย. Yamaha nmax ราคา 120,000 บาท ฟรีดาวน์ ผ่อนได้แค่ 2 เดือน เดือนละ 4,000 บาท แหม่มก็ไม่ผ่อนต่อ และมาขอยืมรถ จยย.ฮอนด้า คลิก ราคาประมาณ 40,000 บาท ก่อนเชิดรถทั้ง 2 คัน รวมทั้งโทรศัพท์มือถือหนีหายไปเลย ตนทำงานได้เงินเดือนละ 12,000 บาท เงินเดือนออกมาโอนให้หมด เงินโบนัสก็ให้ โชคดีถูกลอตเตอรี่ได้เงินมา 50,000 กว่าบาท ไม่ได้ใช้เลยโอนให้หมด แต่ตอนนี้ติดต่อแหม่มไม่ได้แล้ว เขาปิดเฟซบุ๊กและปิดมือถือหนีไปเลย”

นายยุฒธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนมั่นใจว่าโดนหลอก เมื่อเดือนที่แล้วเลยโทรฯไปถามญาติของแหม่ม แต่ทางญาติบอกว่า แหม่มไปหลอกคนอื่นมีผู้เสียหายมาถามหาหลายราย ตนเครียดมาก พูดคุยกับแหม่มมาเกือบ 3 ปี โอนเงินไปนับครั้งไม่ถ้วน ขอเงินเมื่อไหร่ก็โอนเมื่อนั้น ตนเก็บหลักฐานการโอนเงินไว้ทั้งหมด รวมแล้วหลายแสนบาท ตอนนี้หมดตัวแล้ว อยากให้ทนายโป้งช่วยตามนางสาวแหม่มมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ถ้านำเงินที่ตนโอนให้มาคืนตนจะไม่เอาเรื่อง

ด้านทนายโป้ง กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของการฉ้อโกง เนื่องจากผู้หญิงคนนี้เริ่มจากมีการติดต่อกับคุณลุง ไม่ได้ประสงค์เรื่องความรัก และมาโกหกว่าจะอยู่เป็นคู่ชีวิตลุง แต่เป็นลักษณะของการหลอกลวงเอาทรัพย์สินเงินทองไป ลุงเพิ่งมาจับได้เมื่อเดือนที่แล้ว ลุงไปตามหาผู้หญิงแล้วไปเจอญาติ เขาบอกว่าผู้หญิงคนนี้หลอกคนอื่นไปเรื่อย ๆ ตอนนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับคดี คาดว่าน่าจะสื่อสารไม่ครบถ้วน ตนเลยแนะนำให้ลุงกลับไปอีกครั้งเพื่อไปบอกรายละเอียดให้ครบถ้วน จะได้ดำเนินคดีฉ้อโกงได้ ซึ่งคดีฉ้อโกงเป็นคดีที่ยอมความกันได้ หากคู่กรณีทราบแล้ว ก่อนที่ลุงจะไปดำเนินคดีอาญาให้รีบมาไกล่เกลี่ยกับลุงแล้วคืนเงิน ก่อนที่คุณลุงจะดำเนินคดี เพราะอาจจะต้องไปติดคุกและต้องโทษ

อยากจะฝากเตือน สำหรับคนที่ลงโปรไฟล์ในโลกโซเชียลน่าจะมีจิตสำนึกเอาข้อมูลที่เป็นจริงมาลง ไม่ใช่เอาข้อมูลไม่เป็นจริงมาหลอกกัน อันนี้อาจจะเข้าข่ายฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย ส่วนผู้ชายดูอะไรอย่าหน้ามืดตามัว ต้องมีสติ อย่าไปหลงรูปรสกลิ่นเสียงในโลกโซเชียล จะได้รับความเสียหายได้ เพราะฉะนั้นต้องมีสติแล้วจะไม่เสียสตางค์.