เมื่อวันที่ 20 มี.ค. พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สว.สอบสวน สภ.นาข่า จ.อุดรธานี รับแจ้งจากกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 10 ราย ว่าถูก นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี และ น.ส.บี อายุ 38 ปี สามีภรรยาชาว จ.อุดรธานี โกงแชร์มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท โดยนำหลักฐานหน้าเฟซบุ๊ก พร้อมรายละเอียดการจ่ายเงิน และเอกสารการโอนเงินในการเล่นแชร์มาเป็นหลักฐาน โดยเท้าแชร์รายดังกล่าว ประกาศปิดวงแชร์ 52 วง และเป็นสมาชิกแชร์ของวงอื่นแล้วไม่จ่ายเงินคืนวงแชร์อีกหลายวง พร้อมกับปิดเฟซบุ๊กหนี ทำให้มีสมาชิกวงแชร์เสียหายกว่า 50 ราย

โดย นางเก๋ (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี หนึ่งในผู้เสียหายชาว กทม. เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมเล่นแชร์กับ น.ส.บี ซึ่งเป็นเท้าแชร์ โดยรู้จักกันในเฟซบุ๊ก มีการประกาศเชิญชวนเล่นแชร์ โดยทั้ง 2 คน จะมีการนำเงินและทรัพย์สินมาเป็นโปรไฟล์ให้ดูน่าเชื่อถือ พอโทรศัพท์ไปสอบถามและพูดคุย ฝ่าย น.ส.บี อ้างว่าเป็นแม่ค้าขายสินค้าออนไลน์ ส่วนนายเอ เป็นครูสังกัดสถาบันอาชีวะใน จ.อุดรธานี ทำให้เกิดความมั่นใจว่า ทั้งสองมีที่อยู่และการงานเป็นหลักแหล่ง จึงได้นำเงินมาลงทุนเล่นแชร์ด้วย ซึ่งเท้าแชร์จะเปิดให้เล่นทั้งหมด 52 กลุ่ม แล้วแต่ลูกแชร์จะเลือกเล่นกลุ่มไหน ตามวงเงินตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน และจะมีดอกตามกำหนดเวลา เพื่อให้ลูกแชร์ที่ต้องการเงินในแต่ละรอบ บิดแข่งดอกเบี้ยกัน ซึ่ง ตนได้ลงทุนกับบ้านแชร์ของนายเอ 3 วง และ น.ส.บี 2 วง รวม 4 แสนบาท แต่ก็ยังไม่ได้เงินกลับคืน เพราะลงเล่นแชร์ได้ไม่นาน หวังว่าจะรอช่วงท้าย เพื่อจะได้ดอกเบี้ยที่ดีขึ้น

นางเก๋ กล่าวอีกว่า ภายหลังทราบว่า วงแชร์เริ่มมีปัญหา จนกระทั่งไม่มีใครติดต่อสามีภรรยาคู่นี้ได้ ตนจึงขับรถมาจากกรุงเทพฯ เพื่อตามหาบ้านของทั้งสอง เพื่อทวงเอาเงินของตนและสมาชิกคืน แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าไม่มี รอไปก่อน กำลังไปกู้ยืมมาให้ ทำให้ตนและสมาชิกเสียความรู้สึก บางคนเอาเงินเกษียณมาลงทุน แต่กลับกลายเป็นเงินหายไปในพริบตา มาทราบภายหลังว่า ทั้งคู่นั้นไปเป็นสมาชิกในวงแชร์บ้านอื่น มีการบิดเอาเงินมาใช้เป็นยอดหลายแสนแล้วไม่ส่งคืน จนเท้าแชร์ต้องมารับผิดชอบแทนด้วย ภายหลังจึงรวมกลุ่มผู้เสียหาย มาแจ้งความเอาผิด สองสามีภรรยาคู่นี้

ด้าน พ.ต.ท.รัชพล กล่าวว่า คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก และอยู่ในหลายพื้นที่ เบื้องต้นได้ดำเนินการรับเรื่องและให้ผู้เสียหายนำหลักฐานมาแจ้งความ สำหรับผู้เสียหายที่สะดวกแจ้งความที่ สภ.นาข่า จะทยอยเรียกผู้เสียหายให้เข้าสอบปากคำ ในส่วนผู้เสียหายรายอื่นที่อยู่ต่างจังหวัด ก็จะให้แจ้งความตามภูมิลำเนาของผู้เสียหาย เพื่อจะได้รวบรวมเอกสารหลักฐาน ในการออกหมายเรียกเท้าแชร์รายดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนกฎหมาย ทั้งนี้ การกระทำลักษณะนี้เข้าข่ายการกระทำความผิด พ.ร.บ.แชร์และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน.