เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจ นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคและคณะ เดินทางลงพื้นที่เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรค พท. หาเสียง โดยทันทีที่เดินทางมาถึงสนามบิน น.ส.จิราพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 เบอร์ 3 พร้อมมวลชนสวมเสื้อแดงรอต้อนรับ และมอบพวงมาลัย-ดอกไม้ให้กำลังใจ บางส่วนตะโกนเชียร์นายเศรษฐา ว่า “นายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย”

จากนั้นเวลา 09.30 น. นายเศรษฐา พร้อมคณะ เดินทางมาปราศรัยจุดแรกที่ รร.จันทรุเบกษา อ.เกษตรวิสัย โดยมีผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรค พท. ประกอบด้วย นายศักดา คงเพชร ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 7 เบอร์ 7 นายกิตติ สมทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 6 เบอร์ 5 และ น.ส.ชญาภา สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 8 เบอร์ 4 รอต้อนรับ โดยมีประชาชนร่วมรับฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่

น.ส.ชญาภา ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หลายท่านได้ยินนามสกุล “สินธุไพร” ก็ยังสับสนสงสัย ขอชี้แจงว่า สินธุไพร ที่มีพ่อนิสิต-แม่เอมอร และพี่น้ำ จิราพร สินธุไพร อยู่กับ พรรค พท. ไม่เคยย้ายพรรคหนีไปไหน ที่สำคัญอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย อยู่กับพรรค พท. มาตลอด ไม่เคยรับใช้หรือเป็นนั่งร้านให้กับฝ่ายเผด็จการแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ทั้งนี้ จ.ร้อยเอ็ด คือพื้นที่ประชาธิปไตยคือเกียรติภูมิ คือฐานที่มั่นของฝ่ายประชาธิปไตยมาโดยตลอด โดยเฉพาะในการเลือกตั้งซ่อม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ร้อยเอ็ด พี่น้องได้สร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองด้วยการปักธงประชาธิปไตยไว้ที่ จ.ร้อยเอ็ด เทคะเเนน เลือกเอานายก อบจ.จากพรรค พท. ด้วยคะเเนนชนะแบบถล่มทลาย

ทางด้านนายเศรษฐา ปราศรัยว่า ชื่นใจที่ได้เดินทางมาพบกับพี่น้องประชาชน ก่อนเดินทางมาร้อยเอ็ด มีพรรคพวกเพื่อนฝูงและผู้ใหญ่หลายคนในพรรค อยากมาร้อยเอ็ดและภาคอีสาน ตนก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อมาถึงที่นี่ได้พบสายตาที่เป็นมิตร รอยยิ้มที่จริงใจให้กับตนและคณะ เข้าใจแล้วว่าทำไมคนกรุงเทพฯ อย่างตนจึงอยากมาเยือน จ.ร้อยเอ็ด 8 ปีที่ผ่านมา ภาคเกษตรตกต่ำ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ มีการค้นพบข้าวพันธุ์ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ ได้มีการขึ้นทะเบียน สร้างรายได้ให้พี่น้องมากมาย แต่ไม่มีการส่งเสริมในรัฐบาลที่ผ่านมา ดังนั้นหากพรรค พท. เป็นรัฐบาลจะทำให้สินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น 3 เท่า นอกจากนี้ ปัญหายาเสพติดทุกทั่วหัวระแหง อยากให้ลูกหลานโตมากับกัญชาหรือ พรรค พท. หนุนกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น

“ถ้าพี่น้องชาวร้อยเอ็ดออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. นี้อย่างถล่มทลาย ต้องขอร้องวิงวอนพี่น้อง หากอยากได้นายกฯ พรรค พท. ขอให้เข้าคูหากาพรรค พท. ทั้งคน ทั้งพรรคอย่างเดียว ไม่ปันใจให้พรรคอื่น ประเทศจะกลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง” นายเศรษฐา ระบุ

ต่อมาเวลา 11.30 น. นายเศรษฐา และคณะไปพบปะนักธุรกิจที่สาเกต ฮอลล์ (Sagate Hall) อ.เมืองร้อยเอ็ด โดยตัวแทนกลุ่มเกษตรกร สะท้อนปัญหาว่า จ.ร้อยเอ็ด เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิโลก แต่ที่ผ่านมา เกษตรกร ชาวบ้าน ไม่ได้รับการสนับสนุน เราจึงหวังว่า รัฐบาลพรรค พท. จะทำให้ข้าวหอมมะลิสามารถแปรรูปให้มีมูลค่าสูงขึ้น เราอยากเห็นข้าวหอมมะลิ มีราคาเท่ากับทองคำเช่นในอดีต

จากนั้นเวลา 12.55 น. นายเศรษฐา และคณะ ได้ปราศรัยจุดที่ 2 ที่สาเกต ฮอลล์ อ.เมืองร้อยเอ็ด ช่วยนายสถาพร ว่องสัธนพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 1 เบอร์ 3 และ น.ส.จิราพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 เบอร์ 3 หาเสียง โดยมีประชาชนร่วมฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่ ต่างส่งเสียงเชียร์กระหึ่มฮอลล์

น.ส.จิราพร ปราศรัยว่า มีพี่น้องประชาชนสับสนอดีตผู้สมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ท่านหนึ่ง บังเอิญว่ามีชื่อเสียงเรียงนามที่คล้ายตน แต่เพื่อป้องกันความสับสน ขออนุญาตชี้แจงว่า 4 ปี ที่ผ่านมา ไม่เคยลาออกไปลงนายก อบจ. อยู่กับพรรค พท. มาตลอด ไม่เคยย้ายพรรคไปไหน ที่สำคัญไม่มีวันที่จะไปรับใช้เผด็จการ ดังนั้นในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นขอให้พี่น้องเลือกพรรค พท. ให้ถล่มทลายแบบซูเปอร์แลนด์สไลด์ได้ ส.ส. ยกจังหวัดอีกครั้ง เพื่อเอาชนะอำนาจ ส.ว. 250 คน ให้ได้อำนาจรัฐในการบริหารประเทศ ทวงคืนประชาธิปไตย ทวงคืนความกินดีอยู่ดี ทวงคืนศักดิ์ศรีของคนไทยทุกคน รวมทั้งเป็นการตอกตะปูปิดฝาโลงชีวิตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทันที

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมน้องธิธาร ปราศรัยผ่านระบบซูมว่า ดีใจมากๆ ที่ได้คุยกัน คราวก่อนเราก็ได้เจอกันแล้ว เสียดายที่รอบนี้ไม่ได้ไป แต่ส่งใจไปกับทีมเพื่อไทย เราดีใจที่ได้บอกเล่านโยบายกับประชาชนอีกครั้ง วันนี้พูดติดๆ หน่อย เพราะติดหวัดลูกมา วันเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้วเหลืออีก 26 วัน พี่น้องพร้อมเลือกเพื่อไทยแล้วหรือยัง ร้อยเอ็ดมีผู้สมัคร 8 คน พี่น้องต้องเลือกอย่างมียุทธศาสตร์ เพื่อไทยคือคำตอบของพี่น้องที่ดีที่สุด เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น นโยบายเพิ่มรายได้เกิดขึ้นจริงแน่นอน อยากเห็นชาวอีสานรวยกันแล้วค่ะ พี่น้องจะไม่ตกงาน มีรายได้เลี้ยงครอบครัว

“ขอแลนด์สไลด์ที่ร้อยเอ็ด พี่น้องต้องออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด ก่อนวันเลือกตั้งจะมาถึง ตนขอส่งใจไป ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล พี่น้องจะมีชีวิตที่ดีขึ้นแน่อน ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ ถ้าตนมีโอกาสเมื่อไหร่ ไปอีสานอีกแน่นอน คิดฮอดเด้อ” น.ส.แพทองธาร ระบุ

ส่วนนายเศรษฐา ปราศรัยว่า พี่น้องรอมา 8 ปีแล้วเป็นอย่างน้อย กับรัฐบาลที่ไม่ให้ค่าคนไทยทุกคน วันที่ 14 พ.ค. จะเป็นวันเปลี่ยนประเทศไทย ทุกคนจะมีสิทธิมีเสียงในการบริหารจัดการประเทศ พรรค พท. ตั้งแต่สมัยไทยรักไทย พลังประชาชน เราคิดใหญ่ ทำเป็น ทำได้มาโดยตลอด หลายนโยบายแม้จะล่วงเลยมา 20 ปี เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค พี่น้องก็ยังได้ใช้ วันนี้พรรค พท. อัปเป็น 30 บาทพลัส ใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทั่วประเทศ ส่วนนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เมื่อเราออกนโยบายมา พรรคอื่นก็กระแนะกระแหน อ้างว่าจะทำให้ผู้ประกอบการเจ๊ง หรือย้ายฐานการผลิต พี่น้องอย่าไปเชื่อ เขาไม่ได้เจ๊ง ไม่ได้ย้ายฐานการผลิต ที่เขาย้ายเพราะไม่มีผู้นำออกไปเจรจา หรือเขียนสนธิสัญญาการค้าเพื่อดึงดูดใจ ไม่ใช่เพราะนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ก็ถูกวิจารณ์เสียๆ หายๆ ยืนยันว่านโยบายนี้ เงินเข้าสู่กระเป๋าพี่น้องแน่นอน ไม่ต้องมาคอยรับทีละ 500 หรือ 1,000 บาท จากรัฐบาลที่ไม่เห็นหัวประชาชน

“อย่าไปหลงเชื่อกับใครที่ด้อยค่านโยบายของพรรค พท. ทุ่งกุลาร้องไห้จะเหลือแค่ชื่อ และจะไม่เหลือแม้แต่คราบน้ำตาอีกต่อไป พี่น้องชาวร้อยเอ็ดจะมีแต่รอยยิ้มบนใบหน้า เราก่อนจะผลักดันนโยบายดีๆ พี่น้องต้องเลือกพรรค พท. เข้าสู่สภา อย่าให้ใครมาหลอก มาชี้ชวนว่าเรามีพรรคพี่พรรคน้อง แม้จะมีบัตรสีหรือชื่อคล้ายกัน เรามีพรรคเดียวคือพรรค พท. พี่น้องต้องเลือกผู้สมัครร้อยเอ็ด พรรค พท. ให้ยกจังหวัด ขอทุกคนส่งคะแนนให้พรรค พท. แลนด์สไลด์สู่ทำเนียบ” นายเศรษฐา ระบุ.