เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 21 เม.ย. ร.ต.อ.คเณศ งามประเสริฐ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวร้านทองวันฟุง ภายในตลาดปากน้ำ ริมถนนศรีสมุทร ต.ปากน้ำ อำเภอเมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ ภายในร้านทอง พบเจ้าของร้านกำลังคุมตัวผู้ก่อเหตุ ทราบต่อมา น.ส.ณัชนก เจริญสุข อายุ 28 ปี ซึ่งตั้งครรภ์อยู่ 8 เดือน พร้อมของกลางทองคำ จำนวน 3 เส้น รวมหนัก 8 บาท ที่ผู้ก่อเหตุได้วิ่งราว เจ้าหน้าที่จึงทำการสอบสวน ก่อนคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพตั้งแต่นั่ง จยย. มาที่ร้าน พอเข้ามาในร้าน ผู้ก่อเหตุได้ขอดูสร้อยคอทองคำหนัก ทองคำหนัก 3 บาท 2 เส้น และสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท อีก 1 เส้น เจ้าของร้านจึงหยิบมาวางให้ดูบนตู้กระจก ก่อนจะขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท อีก 1 เส้น

ก่อนจะออกอุบายว่า ทองเส้น 5 บาท เปื้อนและให้เจ้าของร้านล้างให้ ก่อนจะอาศัยจังหวะที่เจ้าของร้านกำลังเดินไปล้างทอง ผู้ก่อเหตุได้กวาดทอง 3 เส้น ที่อยู่บนตู้กระจกที่ขอดูตอนแรก แล้ววิ่งหนีออกมาจากร้าน เจ้าของร้านได้วิ่งตามพร้อมตะโกนให้คนช่วยจับ ผู้ก่อเหตุได้วิ่งไปไม่ไกล แล้วล้มลงอยู่บนถนน ก่อนจะถูกชาวบ้านที่วิ่งตามมาจับตัวได้ แล้วเจ้าของร้านกลับมาที่ร้าน พร้อมโทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถามนายสมพงษ์ เพตราไชอนันต์ อายุ 73 ปี เจ้าของร้านทองดังกล่าว เล่าว่า ก่อนหน้านี้ วันพุธที่ผ่านมา หญิงสาวรายนี้ ได้มาติดต่อขอดูข้อมือทองคำไว้ชิ้นหนึ่ง น้ำหนัก 2 บาท โดยบอกว่าชอบลายนี้และจะกลับมาซื้อ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าเป็นลูกค้าปกติ กระทั่งมาวันนี้พอเปิดร้านได้ไม่นาน คนร้ายรายนี้ก็เข้ามาติดต่อขอเลือกซื้อทอง ก่อนจะลงมือก่อเหตุ ซึ่งในขณะนั้นตนเองอยู่เฝ้าร้านเพียงลำพัง ซึ่งคนร้ายรายนี้คงมาดูลาดเลาไว้ล่วงหน้า และเห็นว่าร้านมีเพียงตนเองซึ่งอายุมากแล้วเฝ้าอยู่ คงคิดว่าก่อเหตุง่าย วิ่งตามไม่ทัน สุดท้ายไปไม่รอด ตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

ขณะที่ครอบครัวร้านทองเผย คุณสมพงษ์ วัย 73 ปี เจ้าของร้านทองคนนี้ ดีกรีไม่ธรรมดา เป็นถึงแชมป์นักวิ่งมาก่อน และเป็นคนชอบออกกำลังกาย จึงมีสุขภาพแข็งแรงและวิ่งได้เร็ว 

ด้าน พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุ ก็รีบเดินทางไปตรวจสอบและนำตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที เพื่อส่งตัวให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำดำเนินคดีต่อตามกฎหมาย ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารายนี้ ยอมรับว่าที่ทำลงไปนั้น เพราะติดหนี้พนันออนไลน์เกือบสองแสนบาท ประกอบกับตกงาน และกำลังตั้งครรภ์ใกล้คลอด จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เพื่อหวังเอาทองไปขาย เอาเงินมาใช้หนี้เพื่อนที่ยืมมา 

จากการสอบสวน พบว่าผู้ต้องหารายนี้เรียนจบถึงปริญญาตรี และเคยทำงานร้านสะดวกซื้อ มาระยะหลังติดการพนันออนไลน์ จึงออกอุบายชักชวนเพื่อนร่วมลงทุนขายของ เพื่อนจึงให้เงินยืมมา 170,000 บาท เพื่อไปลงทุน แต่ผู้ต้องหารายนี้กลับไม่เอาเงินที่ได้มาจากเพื่อนไปลงทุนตามที่ตกลงกันไว้ และนำเงินทั้งหมดไปเล่นการพนันออนไลน์ กระทั่งเสียการพนันจนหมดตัว ก่อนจะมาก่อเหตุ ถูกเพื่อนที่ให้ยืมเงินทวงเงินอย่างหนัก จนครอบครัวส่งเงินให้จำนวน 30,000 บาท เพื่อให้ผู้ต้องหารายนี้นำไปคืนเจ้าหนี้ก่อนบางส่วน แต่ผู้ต้องหากลับนำเงินที่ได้มา ไปเล่นการพนันออนไลน์ต่อ ไม่ยอมไปคืน จนกระทั่งเงินหมดตัว จึงตัดสินใจมาลงมือก่อเหตุในครั้งนี้  

เบื้องต้น หลังคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป