จากกรณี นางทองพิน เกียรติชนะสิริ อายุ 63 ปี น.ส.นิภาวรรณ ขันวงษ์ อายุ 35 ปี มารดา และพี่สาว ของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย อายุ 32 ปี เท้าแชร์ ชาว จ.กาญจนบุรี ที่เป็นลมวูบเสียชีวิตเป็นปริศนาขณะเดินทางไปทำบุญปล่อยปลากับเพื่อนสนิทที่ริมท่าน้ำแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เข้าร้องทุกข์ตำรวจกองปราบฯ ช่วยตรวจสอบความผิดปกติเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม โดยมี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ แอม ภรรยาของตำรวจระดับรอง ผกก. ในพื้นที่ จ.ราชบุรี เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายดังกล่าว ภายหลังมีการจับกุมตัว น.ส.แอม มาสอบสวน แจ้งข้อหาตามกฎหมายเนื่องจากพบหลักฐานสำคัญ ขวดไซยาไนด์ หลังบ้านพัก ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชน ถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการไล่เลียงเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่าคดีนี้ลักษณะคล้ายกัน 7 คดี มีผู้เสียชีวิตถึง 9 คน โดยคดีที่ทางตำรวจสอบสวนกลางขออนุมัติศาลออกหมายจับ เป็นคดีที่เกิดขึ้นที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จึงเหลืออีก 6 คดี เพราะฉะนั้นวันนี้ ตนจะร่วมประชุมพร้อมเจ้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจภูธรภาค 7 และเรียกตำรวจ 3 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่เกิด คือ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดราชบุรี เนื่องจากคดีนี้มีระยะเวลา ผ่านไปถึง 2 ปี ประเด็นสำคัญคือการไล่เลียงพยานหลักฐานความเชื่อมโยง เพื่อมัดตัวผู้กระทำความผิดให้ได้ การที่ศาลอนุมัติหมายจับได้ในวันนี้ ถือว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดผู้ต้องหา ส่วนผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธอย่างไรก็ได้ แต่ศาลไม่รับฟังอยู่แล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนหลักฐานสำคัญ ที่นำไปสู่การอนุมัติหมายจับคือการผ่าพิสูจน์พบว่ามี “สารไซยาไนด์” ในร่างกายของผู้ตาย และหลักฐานจากการตรวจที่เกิดเหตุพบ “ขวดไซยาไนด์” อยู่ที่หลังบ้าน ส่วนเหตุจุงใจในการก่อเหตุ น่าจะเป็นเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตาย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ ผู้ตายทั้งหมดเป็นคนที่อยู่แวดล้อมกับผู้ก่อเหตุทั้งหมด ที่อยู่ที่แฟลตตำรวจ และก็เป็นตำรวจ ตัวผู้ก่อเหตุจึงรู้ว่าเป้าหมายทำอะไรอยู่ และมีเงินหรือไม่มีเงิน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดครั้งนี้หรือไม่ เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นการฆาตกรรมต่อเนื่อง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ญาติผู้ตายก็อยู่ที่นี่กับตน 5 ราย ที่น่าเห็นใจก็คือตอนแรกไม่ทราบว่าลูกเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร คิดว่าเสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติ ที่ผ่านมาทางญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการณ์ตาย จึงไม่มีการไปแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่เป็นห่วงเรื่องพยานหลักฐานมาก เนื่องจากการจะเอาผิดคนร้ายได้ ต้องใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงต้องขอรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ทุกราย

ต่อมาเมื่อเวลา 14.40 น. ตำรวจกองปราบฯ ได้คุมตัว นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ “แอม” มาให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทำการสอบสวน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ก่อนที่ตำรวจกองปราบฯ จะคุมตัวไปสอบสวนต่อที่กองบังคับการปราบปราม โดยระหว่างที่คุมตัวนั้น นางสรารัตน์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยกันสื่อมวลชนให้ออกห่างจากตัวนางสรารัตน์ เพราะอยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิวินวิน เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน กรณีการเสียชีวิตของ ร.ต.อ.หญิง กานดา โตไร่ ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี โดยพบว่า กล้องหน้ารถ สมาร์ตวอท ไอแพด และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตหายไป หลังจากพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน คืนทรัพย์สินดังกล่าวให้กับทางญาติผู้เสียชีวิต.