เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งตั้งอยู่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ภายหลังจากเจ้าของบ้านได้ส่งคลิปวงจรปิดมาให้กับผู้สื่อข่าว เพื่อเป็นเบาะแสช่วยประชาสัมพันธ์เร่งติดตามคนร้ายแต่งกายมิดชิดเข้าไปก่อเหตุตัดตู้เซฟก่อนที่จะกวาดทรัพย์สินมีค่าภายในบ้านสูญหายนับ 2 ล้านบาท

เมื่อไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นหมู่บ้านจัดสรรเข้าออกได้ทางเดียว มีเจ้าหน้า รปภ. ดูแลทางเข้า 24 ชั่วโมง บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 1122/45 ลักษณะบ้านเดี่ยว 2 ชั้น รั้วรอบขอบชิด เจ้าของบ้านชื่อ นางรวิภัทร ไชยพร อายุ 31 ปี เจ้าของบริษัทเกี่ยวกับประมูลเก็บเศษเหล็กในโรงงานอุตสาหกรรม ก่อนที่ นางรวิภัทร จะพาผู้สื่อข่าวเดินขึ้นไปชั้น 2 เพื่อสำรวจห้องนอน และเป็นจุดที่คนร้ายเข้าไปก่อเหตุ พบว่าบริเวณข้างเตียงนอน ซึ่งเป็นจุดวางตู้เซฟ ยังมีร่องรอยไหม้จากสะเก็ดไฟจากที่คนร้ายใช้เครื่องมือตัดตู้เซฟจนพื้นบ้านเสียหาย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งจับภาพขณะคนร้ายเข้าไปก่อเหตุ พบว่า วันที่ 10 เม.ย. 66 เวลา 01.44 น. คนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมเสื้อแขนยาวคลุมศีรษะสีดำ สวมถุงมือ ใส่แมสก์สีดำปิดบังใบหน้า ปีนรั้วกำแพงของหมู่บ้าน ก่อนจะเดินเลาะรั้วปีนเข้าไปในบ้าน เพื่อเข้าไปดูลาดเลาภายใน โดยจุดที่คนร้ายใช้เข้าไปในบ้านคือ หน้าต่างห้องน้ำชั้น 2 ใช้เวลาสำรวจบ้านดังกล่าวเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะกลับออกไปในช่วงเวลา 02.25 น. ต่อมาในช่วงเวลา 20.11 น. วันเดียวกัน คนร้ายคนเดียวกันกลับเข้ามาบ้านหลังนี้อีกครั้ง และมั่นใจว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ ก่อนที่จะนำเครื่องมือติดเข้าไปในบ้านลงมือก่อเหตุด้วยการใช้ความร้อนในการเจาะตู้เซฟเพื่อกวาดเอาทรัพย์สินหลายรายการ เช่น นาฬิกาหรูยี่ห้อโรเล็กซ์ 2 เรือน และนาฬิกาข้อมือยี่ห้อปาเต๊ะ 1 เรือน เงินสด และของมีค่าอื่นๆ มากกว่า 2 ล้านบาท นอจากนี้ คนร้ายยังถอดฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดในบ้านติดมือไปด้วย โดยใช้เวลาในการลงมือก่อเหตุและอยู่ในบ้านหลังนี้กว่า 4 ชั่วโมง

นางรวิภัทร เจ้าของบ้าน กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนและครอบครัวไม่อยู่บ้านไปพักที่ต่างจังหวัดตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งปกติแล้วจะมีแม่บ้านคอยเข้ามาทำความสะอาดภายในบ้านอาทิตย์ละครั้ง ล่าสุดมาวันที่ 9 เม.ย. ก็ยังพบว่าทุกอย่างปกติ และจะเข้ามาทำความสะอาดอีกครั้งในวันที่ 16 เม.ย. แต่เป็นจังหวะที่แม่บ้านป่วย จึงไม่ได้เข้ามาทำความสะอาด ต่อมาแม่บ้านกลับเข้ามาทำความสะอาดอีกครั้ง วันที่ 23 เม.ย. ในขณะนั้นตนและครอบครัวยังอยู่ต่างจังหวัด พอแม่บ้านมาถึงก็พบความผิดปกติ ประตูครัวหลังบ้านไม่ได้ล็อก พอมาสำรวจภายในบ้านพบการรื้อค้น พบว่าตู้เซฟภายในห้องถูกงัดทรัพย์สินหายไปหลายรายการ แม่บ้านจึงรีบโทรฯ บอกตน จึงรีบกลับมาที่บ้านในวันที่ 23 เม.ย. ทันที พอมาถึงก็ถึงกับเข่าทรุดเพราะพบว่าคนร้ายงัดตู้เซฟเอาทรัพย์สินทั้งหมดไป จากนั้นจึงรีบเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.บางปู และกลับมาไล่กล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านจนเห็นว่ามีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปมีทั้งนาฬิกาแบรนด์เนม เครื่องประดับเพชร ทองคำ และอื่นๆ รวมกว่า 2 ล้าน มั่นใจคนร้ายเป็นมืออาชีพ และเตรียมการมาอย่างดี จึงอยากวอนตำรวจช่วยติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบและแกะรอยคนร้าย โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุ แต่ก็ติดปัญหาสำคัญคือ ระยะเวลาก่อเหตุของคนร้าย พบว่าก่อเหตุเมื่อวันที่ 10 เม.ย. แต่ผู้เสียหายทราบเรื่องวันที่ 23 เม.ย. ล่วงเลยเวลามาหลายวันทำให้การตรวจสอบวงจรปิดบางจุดทำได้ยาก เนื่องจากข้อมูลถูกบันทึกทับหรือลบไปแล้ว แต่ตนกำชับฝ่ายสืบสวนแล้วให้เร่งดำเนินการไล่ล่าตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็ว เชื่อว่าน่าจะเป็นคนร้ายน่าจะเป็นมืออาชีพและก่อเหตุในลักษณะนี้มาหลายครั้ง.