เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่สโมสรตำรวจ กรุงเทพฯ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า หลังจากที่วานนี้ (3 พ.ค.) ได้มีการสอบปากคำ น.ส.น้อยหน่า (สาวคนสนิท พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ รองอ๊อฟ อดีตรอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง อดีตสามีแอม) ซึ่งเจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์อย่างมาก และยืนยันชัดเจนว่าตัวเองคบหากับรองอ๊อฟได้ 5 เดือน และไม่ได้รู้รายละเอียดเยอะ โดยในวันที่ทั้งหมดไปหัวหิน ก็ไปภายหลังจากที่ก่อเหตุแล้ว ส่วนที่เมืองกาญจนบุรี เขาก็ไปด้วยกันหมดเช่นกัน นอกจากนี้ น.ส.น้อยหน่า ยังให้การว่า แอม สรารัตน์ ยินยอมให้คบกับรองอ๊อฟได้ แต่ความเป็นจริงก็มีแสดงอาการหึงหวง ซึ่ง น.ส.น้อยหน่า ก็เกิดความสงสัย อย่างตอนไปเมืองกาญจนบุรี แอมก็นอนหมกตัวอยู่แต่ในห้องพัก ไม่ได้ออกไปไหน ซึ่งวิธีการแบบนี้สำหรับแนวทางตำรวจมองว่าเป็นการอ้างสถานที่ที่หนึ่งหลังจากการก่อเหตุ โดยใช้น้อยหน่าเป็นพยานเพื่อยืนยันว่าในวันเกิดเหตุคนเหล่านี้อยู่ในสถานที่ดังกล่าว และน้อยหน่าก็ไม่รู้เรื่องว่าตัวเองถูกใช้เป็นพยานเพื่อยืนยันถิ่นที่อยู่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการที่แอมยอมให้ไปทั้งสองที่นั้น ส่วนนี้ได้มีการสอบปากคำไว้ในสำนวนแล้ว และวานนี้รองอ๊อฟได้บอกว่าถ้าศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ก็จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขอคุยกับแอมในเรือนจำเพื่อให้แอมสารภาพทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นอกจากพยาน เจ้าหน้าที่ยังพบความเชื่อมโยงเรื่องเส้นทางการเงินของน้อยหน่าในบางส่วน แต่ยังพบไม่หมด จึงได้มีการนัดหมายให้รอง ผกก.(สอบสวน) ที่ดูแลเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมดในช่วงวันหยุด 4 วันนี้ ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบ และคาดว่าจะมีการออกหมายจับรองอ๊อฟเพิ่มเติมในฐานความผิดร่วมกันฆ่าหรือไม่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวรองอ๊อฟเข้าตรวจค้นบ้านพักที่จังหวัดนครปฐม และบ้านพักของแอมที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจหาเรื่องสารไซยาไนด์ และภายหลังจากค้นบ้านทั้งสองแห่งเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จึงจะพารองอ๊อฟไปทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งตนได้ประสาน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ทราบแล้วว่า ในเวลา 15.00 น. จะเข้าไปสอบปากคำแอมเพิ่มเติม และพาตัวอดีตสามีแอมไปด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนความคืบหน้าทางคดีทั้งหมด เหลือเพียงเคสของ น.ส.มณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือทราย พื้นที่ สน.ทองหล่อ โดยขณะนี้ ผกก.สน.ทองหล่อ ยืนยันว่าในวันที่ 8 พ.ค.นี้ จะขออนุมัติศาลออกหมายจับแอมเพิ่มเติมได้ ล่าสุดได้มีการอนุมัติขอศาลออกหมายจับในคดีเเอมทั้งสิ้น 14 คดี รวมถึงคดีพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทั้งนี้ หลักสำคัญของคดีนี้ คือ การรับสารภาพของแอม เพราะรองอ๊อฟบอกว่า ตัวเองสามารถพูดให้แอมรับสารภาพได้ โดยตนจะให้เขาทั้งคู่ได้ต่อรองกัน ได้พูดคุยกัน เพราะเราไม่มีเงื่อนไขใดกับรองอ๊อฟ ไม่มีเงื่อนไขการกันรองอ๊อฟไว้เป็นพยานด้วย เพราะจะดำเนินคดีกับรองอ๊อฟเต็มที่ 100% ส่วนที่รองอ๊อฟกลับหลังมาให้ความร่วมมือ เพราะตนได้คุยกับรองอ๊อฟตรงๆ ว่าเราเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องนายตำรวจด้วยกัน และคดีนี้สังคมได้ชี้ไปแล้ว อีกทั้งศาลยังออกหมายจับ อะไรที่เป็นประโยชน์ก็ต้องช่วยตัวเอง ให้รับสารภาพ ให้ไปคุยกับแอม เพื่อให้แอมให้การเป็นประโยชน์ ทำหนักให้เป็นเบา อย่างไรก็ตาม ในการสอบปากคำเพิ่มเติมแอมในวันนี้ตนจะเข้าไปร่วมสอบด้วย ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้มีการเชิญแม่แอมมาสอบปากคำแต่อย่างใด

“รองอ๊อฟไม่ยอมรับว่ารู้เรื่องการฆ่า แต่ยอมรับเรื่องทรัพย์สินบางส่วน เรื่องรถต่างๆ แต่เราไม่เชื่อในคำให้การทั้งหมด ต้องรอดูก่อน และแม้รองอ๊อฟพูดไม่หมด เราก็มีพยานหลักฐานอื่นๆที่จะมัดได้ และจากการสอบปากคำ ขอยืนยันว่า น.ส.น้อยหน่า ไม่เกี่ยวข้องเป็นแค่แฟนและถูกเอามาใช้ประโยชน์ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะไม่เรียกสอบเพิ่มเติมแล้ว” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุ