เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ภายหลังศาลจังหวัดนครปฐม ได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีต รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หรือ รองอ๊อฟ อดีตสามี แอม-สรารัตน์ ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้พา พ.ต.ท.วิฑูรย์ เดินทางไปที่เรือนจำทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อให้ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ได้พูดคุยกับอดีตภรรยา ซึ่งก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ยืนยันสามารถทำให้แอมรับสารภาพได้

ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า วันนี้ตน ผบช.ภ.7 และอ๊อฟ อดีตสามีแอม ได้เข้าไปเกลี้ยกล่อมให้แอมสำนึกผิด โดยแอมเสนอว่า ขอเจอญาติผู้หญิงคนหนึ่งที่ไว้ใจก่อน โดยญาติคนนี้ อยู่ในพื้นที่ บช.ภ.7 หลังจากนั้นจะยอมให้การกับตนทั้งหมด โดยนัดหมายให้อ๊อฟ นำตัวญาติของแอมมาพบในเวลา 10.00 น. วันที่ 5 พ.ค. นี้ จากนั้นวันที่ 6 พ.ค. ตนจะมาสอบสวนแอมอีกครั้งว่า จะให้การอย่างไร ในระหว่างการสอบสวน แอมได้ร่ำไห้ เพราะกังวลเกี่ยวกับเรื่องสามีที่โดนให้ออกจากราชการ จากการกระทำของเขาเอง และไม่รู้ว่าเขาจะทำงานและใช้ชีวิตอย่างไรต่อ รวมถึงกังวลเรื่องลูกด้วย ว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

แต่ในวันนี้ แอม ยังไม่ยอมรับสารภาพในคดีฆ่า หรือให้การใดๆ โดยขอพบญาติรายนี้ก่อน ตนได้พยายามพูดให้เห็นว่าพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนนั้น ไปไกลแล้วที่จะเอาผิดกับตัวแอม โดยพนักงานสอบสวนเห็นว่า การให้สามีมาเกลี้ยกล่อม จะทำให้เขาให้การรับสารภาพและเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนตัวอ๊อฟไม่มีความเครียด แต่ตัวแอมมีความเครียดมาก โดยเฉพาะความกังวลในเรื่องของลูก การอยู่ในสังคมของลูก จะอยู่ในสังคมอย่างไร และสามีหลังจากออกจากราชการแล้ว จะไปทำงานที่ไหน แอมบอกว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เป็นผลจากสิ่งที่เขาทำทั้งสิ้น

ส่วนเรื่องการรับสารภาพนั้น ตนจะมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังจากที่เขาได้พบญาติแล้ว การที่เขาจะรับสารภาพ เขาจะต้องสบายใจ ให้เจอญาติที่เขาต้องการพบ แอมรับปากตนว่า ถ้าเจอญาติแล้วจะยอมพูดทั้งหมด หลังจากเสร็จแล้ว ตนจะให้อ๊อฟติดต่อญาติคนนี้เข้ามา เพื่อให้แอมได้เจอญาติรายนี้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนรวบรวมหลักฐานจะทำควบคู่กันไป โดยบอกแอมว่า คดีทั้ง 15 ราย ทำเคสไหนก็ให้รับสารภาพมา ในทางคดี ทนายของแอมรับว่าความคดีละ 150,000 บาท ตนบอกไปแล้วว่ามีทั้งหมด 15 คดี ไม่มีทนายความคนไหนหรอกที่จะบอกว่าสู้ไม่ได้ เพราะถ้าบอกว่าสู้ไม่ได้ ก็ไม่มีอาชีพทนายความ โดยแอมยังใช้ทนายความคนเดิม เนื่องจากเป็นเพื่อนกัน

สำหรับตัวน้อยหน่า ภรรยาน้อยอ๊อฟ ไม่มีประเด็นไหนแล้ว แต่จะมีการตรวจสอบในคู่ขนานไปด้วย ทุกอย่างต้องทำควบคู่กันไป โดยน้อยหน่าคิดว่า ถ้าเกิดเขาไม่ได้ไปต่างจังหวัดก่อน เขาอาจจะถูกฆ่าก็ได้ เพราะว่าพักหลังแอมเริ่มไม่ชอบที่น้อยหน่าไปคบกับอ๊อฟ มีความหึงหวง โดยน้อยหน่าเพิ่งคบได้ 5 เดือน จึงไม่รู้อะไรมาก

“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่า อ๊อฟเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม ต้องดูเรื่องความเชื่อมโยงเกี่ยวกับพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน ที่อ๊อฟจะต้องรับผิดชอบด้วย ต้องพยายามทำควบคู่กันไป ต้องพยายามให้แอมสำนึกผิด ให้จิตใจส่วนนี้ของแอมขึ้นมา เพื่อให้รู้ผิดชอบชั่วดี ถ้าจิตใจที่ไม่ดีขึ้นมาเหนือกว่า ความรู้ผิดชอบชั่วดีก็จะไม่เกิด ตอนนี้ก็ทำให้เรามีความหวังที่เขาจะได้พบกับญาติเขาก่อนในวันพรุ่งนี้ และในวันถัดไป ตนจะเข้ามาพูดคุยกับแอมอีกครั้ง ถ้าเขารับสารภาพก็เป็นผลดี แต่ถ้าไม่รับ เราก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้ศาลลงโทษเขาให้ได้ การที่แอมผสมไซยาไนด์บ่อย ทำให้แอมมียาต้านไซยาไนด์ แสดงว่ามีการป้องกันตัวเอง เพราะสารไซยาไนด์ แค่สูดดมไปก็โดนแล้ว ยาต้านไซยาไนด์ ต้องฉีดเข้าเส้นเลือดดำ คนฉีดได้ต้องเป็นพยาบาล ต้องไปไล่ต่อว่าใครเป็นพยาบาลที่อยู่ใกล้ตัวเขา การมียาต้านพิษด้วย แสดงถึงว่าคิดไว้รอบคอบแล้ว เรื่องนี้เป็นซีรีส์ได้เลย” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

รอง ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า สารไซยาไนด์ ผสมสมุนไพรใส่แคปซูลทุกเม็ด แสดงว่าถ้าเกิดแอมเจอเหยื่อก็พร้อมให้กินเลย ส่วนกรณีดารา เราทราบชื่อหมดแล้ว วันจันทร์นี้ได้ออกหมายเรียกให้มาพบ มีความผิดปกติ เพราะว่าหลังเกิดเหตุคดีนี้แล้ว ได้มีการสั่งซื้อไซยาไนด์ จำเป็นต้องนำมาสอบปากคำ เพื่อดูว่าซื้อไปทำอะไร มีวัตถุประสงค์อะไร ต่อไป

อย่างไรก็ตามหลัง รอง ผบ.ตร. ออกไป ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ก็ได้นำตัวรองอ๊อฟ ออกจากเรือนจำออกไปควบคุมตัว และสอบเพิ่มเติมในบางประเด็น