เมื่อวันที่ 11 พ.ค. พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงการเชิญชวนกำลังพลไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ว่าก็จะเน้นย้ำกันอีกครั้ง โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เช่นการสวมเสื้อมีชื่อพรรคการเมือง เข้าไปในพื้นที่หน่วยเลือกตั้ง รวมถึงหลังเวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค. งดการหาเสียง

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ทหารตกเป็นเป้าเป็นการยกเลิกเกณฑ์ทหารและมองว่าทหารไม่จำเป็น มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ในส่วนของเราที่เป็นทหาร ก็มีสิทธิทำข้อมูลชี้แจง ถึงความจำเป็นในการมีทหาร หรือจำเป็นในการเกณฑ์ทหาร

เมื่อถามต่อว่ามีความเป็นห่วงสถานการณ์หลังเลือกตั้ง เพราะมองว่าจะมีความวุ่นวายจะเดือดร้อนทหารอีกหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ผมไม่ห่วง เพราะเชื่อว่าเรามีบทเรียนมามากแล้วในอดีต เพราะฉะนั้นทุกคนมาถึงจุดนี้ การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องเดินไป แต่ทุกคนก็ต้องมีสติ ว่าอะไรควร ไม่ควร และทุกคนควรมีสติ เรื่องคงเดิมหรือเปลี่ยนใหม่ เป็นเรื่องของวันเวลา ที่เปลี่ยนใหม่ แต่การเปลี่ยนแปลง ต้องดูว่าเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ดี”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า 5 เดือนที่เหลือในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ยืนยันได้หรือไม่ว่า สถานการณ์จะเรียบร้อย ไม่มีทหารออกไปทำอะไรให้ประชาชนหวาดวิตก พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ผมยืนยันไม่ได้ หมายถึงว่าในส่วนของบ้านเมืองจะเรียบร้อยหรือไม่ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน”

ส่วนไม่มีการปฏิวัติหลังการเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า คำพวกนี้บอกนักข่าวไปหลายครั้งแล้วว่าไม่ควรพูด ไม่ควรถาม และไม่ควรเขียน เพราะจะเป็นการปลุกความคิดที่ขัดแย้งต่อเนื่องมาก คำพวกนี้ มันควรไม่มีแล้ว และควรลบออกจากพจนานุกรมของกองทัพ

เมื่อถามอีกว่า หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของสถานการณ์ในอนาคต ไม่มีใครตอบได้ จนกว่าจะถึงวันที่ 14 พ.ค. เป็นเรื่องของนักการเมืองที่จะไปจับขั้วกันเองว่าจะจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร ทหารเป็นเพียงข้าราชการประจำ ไม่ใช่ข้าราชการการเมือง